อีอีซี รับมือภัยแล้ง เร่งผันน้ำช่วย เติมอ่างหลัก

06 มี.ค. 2563 | 09:25 น.

บอร์ดอีอีซี รับทราบแผนบริหารจัดการน้ำใน อีอีซี ดัน 3 มาตรการระยะสั้นสูบและผันน้ำจากลุ่มน้ำอื่นมาเติมอ่างหลัก เจรจาซื้อน้ำจากบ่อดินเอกชน เข้าระบบจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา ได้ปริมาณน้ำเพิ่มอีก 16 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยหลังการประชุมกพอ.มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้(6 มี.ค.63) 2563 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบและพิจารณาความก้าวหน้าการดำเนินงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)  มีรายละเอียดที่สำคัญ ได้แก่ แผนบริหารจัดการน้ำใน อีอีซี โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาของอีอีซี รองรับการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว และแผนระยะสั้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2563

 

สำหรับมาตรการระยะสั้น รองรับวิกฤตภัยแล้ง ปี 2563 จากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของ สทนช. สกพอ. กรมชลประทาน คณะกรรมการลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) บริษัท East Water และภาคเอกชน ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ มีโครงการเพิ่มปริมาณน้ำใน 3 มาตรการเร่งด่วน เพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่ อีอีซี  ได้แก่

อีอีซี รับมือภัยแล้ง เร่งผันน้ำช่วย เติมอ่างหลัก

                                        นายคณิศ แสงสุพรรณ

1.โครงการสูบน้ำกลับคลองสะพาน มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 1.5 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย East Water ประสานกับกรมชลประทาน เร่งดำเนินการ 2.โครงการผันน้ำคลองหลวง มายังอ่างเก็บน้ำบางพระ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยกรมชลประทาน เร่งดำเนินการ3.โครงการผันน้ำจากลุ่มน้ำวังโตนด จ.จันทบุรี มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 10–35 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมชลประทาน และคณะกรรมการลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำวังโตนดได้ลงนาม MOU เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 สามารถเริ่มผันน้ำ 4.3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเสริม เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอโดยขอให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) จัดทำแผนลดใช้น้ำ 10%  ช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563  เจรจาซื้อน้ำจากบ่อดินเอกชน เข้าระบบจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยการประปาภูมิภาค ประสานกับ East Water เร่งดำเนินการ โครงการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ มายังหนองปลาไหล สามารถผันน้ำ 1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยกรมชลประทาน ดำเนินการแล้วเสร็จ 28 กุมภาพันธ์ 2563  และโครงการวางท่อคลองน้ำแดง เพิ่มการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ มาอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 1.3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย East Water ประสานกับกรมชลประทาน

อีอีซี รับมือภัยแล้ง เร่งผันน้ำช่วย เติมอ่างหลัก

 

ขณะที่การบริหารจัดการน้ำระยะยาวให้เพียงพออย่างดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สทนช. ได้จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำของปี 2563 – 2580 ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ปี 2563 – 2580)  เพื่อพัฒนาและจัดการน้ำต้นทุน 53 โครงการ วงเงิน 52,797 ล้านบาท  ได้แก่ แผนการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน (Supply Side Management) 38 โครงการ วงเงิน 50,691.10 ล้านบาท เช่น สร้างอ่างเก็บน้ำ คลองวังโตนด อ่างเก็บน้ำ คลองโพล้ และพัฒนาระบบสูบกลับคลองสะพาน - อ่างเก็บน้ำประแสร์ เป็นต้น แผนการบริหารจัดการด้านความต้องการใช้น้ำ (Demand Side Management) 12 โครงการ วงเงิน 1,927.15 ล้านบาท เช่น แผนการบริหารจัดการลดน้ำสูญเสีย การประปาส่วนภูมิภาค สาขาต่าง ๆ ปรับระบบการเพาะปลูก เป็นต้น และมาตรการอื่นๆ การศึกษาจัดทำฐานข้อมูลพัฒนาน้ำบาดาล 3 โครงการ วงเงิน 178.99 ล้านบาท  รวมถึง เตรียมพิจารณาการลงทุนในอนาคตกับภาคเอกชน ในการผลิตน้ำจืดจากทะเล (Desalination)