IRPC ผนึก JPP ต่อยอดผลิตเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ
IRPC ลุยซื้อหุ้น Mytex Thailand 50% ร่วมทุนพันธมิตรญี่ปุ่น JPP รุกตลาดเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ พีพีคอมพาวด์ เจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ทุกรูปแบบ พร้อมบุกตลาดอาเซียน
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกชนิดพิเศษพีพีคอมพาวด์ แบบขั้นตอนเดียว(In - line compound) ซึ่งบริษัทฯ โดยการร่วมทุนกับบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำเจ้าของเทคโนโลยีผลิตเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษแบบขั้นตอนเดียวบริษัท เจแปน โพลิโพรพิลีน คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ JPP ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของบริษัทไมเท็กซ์ โพลิเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (MytexPolymers (Thailand) Co. Ltd) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษพีพีคอมพาวด์ (Polypropylene Compound: PP Compound) สำหรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับผู้ผลิตทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เดิมทีบริษัทฯ มีกำลังการผลิต140,000 ตันต่อปี โดยเริ่มดำเนินการผลิตเมื่อปลายปี 2560 ด้วยเทคโนโลยีการผลิตของ JPP ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสูตรการผลิตเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษที่หลากหลาย ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพ และช่วยลดการใช้พลังงาน”
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของบริษัทฯ สามารถขยายตลาดเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รวดเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นก้าวที่สำคัญของ IRPC ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ (Specialties) ได้ตามแผนกลยุทธ์ ด้วยการพัฒนาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเม็ดพลาสติกพีพี ให้พร้อมตอบสนองอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วไปและรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในด้านความปลอดภัย อายุการใช้งาน และต้นทุน รวมทั้งรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมอื่นๆ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเติบโตของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นกลยุทธ์ Human Centric ด้วยการเข้าใจและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมมาตอบโจทย์เทรนด์โลก
นอกจากนี้ JPP และ Mytex Thailand ต่างก็เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยี เป็นที่ยอมรับ และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก ขณะนี้ JPP และ IRPC อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ยื่นขออนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาลในประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า เมื่อกระบวนการทางกฎหมายเสร็จสิ้น จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันทีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยมั่นใจว่าด้วยความร่วมมือของพันธมิตรจะทำให้บริษัทร่วมทุนมีศักยภาพในการแข่งขันอย่างมั่นคงและยั่งยืน