โลกร้อน เพราะคนเผาถ่าน

07 มี.ค. 2563 | 00:00 น.

นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าก๊าซเรือนกระจกเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ และยังพบว่าส่วนใหญ่ของก๊าซเรือนกระจกเกิดจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล อันประกอบ ด้วยนํ้ามัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ในปัจจุบัน
โลกยังใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอยู่มากถึง 80% ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด เปอร์เซ็นต์นี้ได้ลดลงตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าสูงเกินไปที่จะบรรเทาปัญหาโลกร้อนได้

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ “ถ่านหิน” ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มนุษย์ใช้กันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และเป็นเชื้อเพลิงหลักที่มีส่วนสำคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งเริ่มที่ประเทศอังกฤษในศตวรรษที่ 18 เราคงจำกันได้จากบทเรียนในวิชาประวัติศาสตร์โลกว่าเครื่องจักรไอนํ้าเป็น
สิ่งประดิษฐ์สำคัญในยุคนั้น และถูกขับเคลื่อนด้วยการเผาถ่านหิน เพื่อต้มนํ้าจนกลายเป็นไอ ทำให้เกิดแรงดันที่เอาไปใช้หมุนเครื่องจักรเครื่องยนต์ต่างๆ

ข้อดีของถ่านหินคือการเป็นเชื้อเพลิงที่ค้นหาได้ง่าย มีอยู่ทั่วไปในทุกภูมิภาคของโลก และมีปริมาณสำรองใต้ดินสูงมาก (ขุดใช้ไปได้อีกไม่ตํ่ากว่า 100 ปี) จึงมีต้นทุนค่อนข้างตํ่าเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่นๆ แต่ข้อเสียคือ การทำเหมืองถ่านหินและการเผาถ่านหินก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทำให้เกิดฝุ่นละอองและก๊าซเรือนกระจกค่อนข้างมาก อีกทั้งมีนํ้าหนักมากไม่เหมาะกับการใช้เป็นเชื้อเพลิงในการขนส่ง ในเวลาต่อมาโลกจึงหันไปใช้นํ้ามันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียนต่างๆ มากขึ้น

การใช้ถ่านหินโดยรวมของโลกเพิ่มขึ้นเกือบทุกปี และเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา สาเหตุหลักของการลดลงเป็นเพราะหลายประเทศ เช่น อังกฤษ และเยอรมนี มีนโยบายลดหรือเลิกการใช้ถ่านหินในโรงไฟฟ้า เพื่อลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตาม ถ่านหินก็ยังเป็นเชื้อเพลิงที่สำคัญที่สุดในการผลิตไฟฟ้าของโลก (38% ของไฟฟ้าโลกผลิตโดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง)

ปัจจุบันการใช้ถ่านหินของโลกมีปริมาณมากเป็นที่ 2 รองจากการใช้นํ้ามัน โดยมีก๊าซธรรมชาติวิ่งไล่ตามมาติดๆ (ข้อมูลปี 2558 คือ นํ้ามัน 32% ถ่านหิน 28% ก๊าซธรรมชาติ 22% วัดจากหน่วยค่าความร้อน) ในไม่อีกกี่ปีข้างหน้า เชื่อกันว่าโลกจะใช้ก๊าซธรรมชาติมากกว่าถ่านหินแล้ว

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศในแถบเอเชีย-แปซิฟิกได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภาพรวมของถ่านหินโลก โดยจีนซึ่งกลายเป็นประเทศที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโลก จำเป็นต้องใช้ถ่านหินมากถึงครึ่งหนึ่งของการใช้ถ่านหินทั้งหมดในโลก และเป็นผู้ผลิตและผู้นำเข้าถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ในปัจจุบันจีนต้องพึ่งพาถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้ามากถึง 2 ใน 3 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ

ปี 2561 ประเทศผู้นำเข้าถ่านหินมากที่สุด 5 อันดับแรกของโลกอยู่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกทั้งสิ้น อันได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน (ไทยติดอันดับที่ 9) โดยรวมแล้วประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงมากถึง 3 ใน 4 ของการใช้ถ่านหินทั้งหมดในโลก (ไทยใช้เพียงครึ่งเปอร์เซ็นต์ของโลกเท่านั้น)

ดังนั้นพฤติกรรมการใช้ถ่านหินของจีน และประเทศยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จึงน่าจะมีบทบาทสำคัญมากที่จะทำให้โลกสามารถลดก๊าซเรือนกระจกจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลลงไปได้

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,554 วันที่ 5 - 7 มีนาคม พ.ศ. 2563

โลกร้อน เพราะคนเผาถ่าน