“หมอธีระวัฒน์”ตั้งคำถามประเทศไทยทำอะไรอยู่

01 มี.ค. 2563 | 05:19 น.

“หมอธีระวัฒน์” หน.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โพสเฟซบุ๊ก ตั้งคำถาม ประเทศไทยทำอะไรอยู่

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนเฟสบุ๊ค ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha หัวข้อ ประเทศไทยทำอะไรอยู่ ? ปรากฏใจความดังนี้ 

ประเทศไทยทำอะไรอยู่ ?

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา 1/3/20

ต้อง quarantine ทั้งหมด ที่เข้ามาโดยตรวจจากพื้นที่เสี่ยงและ คนไทยที่ออกไปและกลับมา

ผู้ป่วย อายุ 30 ไม่มีโรคประจำตัวทำงานขายของที่ ....สาขา...ติด ขณะนี้อาจจะเสียชีวิตแล้ว คนขับรถแท็กซี่ รถทัวร์ รถตู้ ติดได้ และชาวต่างประเทศที่เข้ามาและคนไทยที่ติด 80% จะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมากจนกระทั่งตรวจพบยากแต่แพร่เชื้อได้

โดยเฉพาะหลักฐานชัดเจนคือเชื้อนี้ลงไปที่ปอด และหลอดลมส่วนล่างในระยะต้นจึงไม่มีอาการไอ เจ็บคอใดๆ และเป็นข้ออธิบายว่าทำไมการตรวจน้ำโพรงจมูกและคอจึงให้ผลลบ คนไข้ที่โรงพยาบาลสวนดอกเชียงใหม่ ตรวจสองครั้งได้ผลลบแต่หมอเราเองเก่ง คิดว่าเป็น จึงทำBAL สอดท่อ เอาน้ำล้างปอดมาตรวจครั้งที่สามถึงเจอ

อีก 20% ที่เหลือถึงจะเป็นอาการหนักและวิกฤติ

ความจริงเข้าไทย ระยะที่สามไปแล้ว

ถ้าดูอย่างที่ว่า และประเทศสิงคโปร์ขณะนี้เข้มงวดจับเข้าคุกถ้าไม่ยอมกักกันตัวอยู่บ้าน 14 วัน และใช้ตรวจ แอนติบอดีแทน ซึ่งถึงแม้จะเป็น IgG

แต่เป็นการพิสูจน์ว่าการตรวจหลุด และในอนาคอันใกล้จะใช้ IgM ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะช้าไปสี่ถึงห้าวันหลังจากที่มีการติดเชื้อก็ยังดี

นอกจากนั้นการใช้คอมพิวเตอร์CT ที่ปอดให้การวินิจฉัยที่แม่นยำกว่า PCR

Sero อยู่ใน Science. CT ที่ดีกว่า ใน Radiology ข้อยืนยันว่าไปปอดส่วนล่างมาจากรายงาน ทั้งทางคลินิค และตรวจศพ Stage ของ CT ultraearly early progressive Consolidation dissipation ใน mil med res

รายงานข้อปฎิบัติจากจีน

เราเสนอ ประเทศไทยให้ใช้ favipiravir ตั้งแต่ 24/1/20 เพราะเรามีการทดลองว่า ยานี้รักษาหนูที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ 10% และยานี้ใช้ในคนที่เป็นโรคต่างๆหลายชนิดที่เกิดจากไวรัสในตระกูลนี้และตระกูลใกล้กัน ทั้งรู้ขนาดระยะเวลาในการใช้มันเนินนานพอสมควร

และได้ผลในผู้ป่วยคนไทย

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.20 น. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแถลงของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผู้ป่วยคนไทยรายแรกที่เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  ระบุว่า 
ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่าข้อมูลของกระทรวงกับข้อมูลของเราไม่ตรงกันดังด้านล่าง
“แถลงกระทรวง กับ โพสต์อาจารย์หมอธีรวัฒน์ มีข้อต่างกันเล็กน้อยกรณีผู้ติดเชื้อ โควิด-19ชาวไทยเสียชีวิตรายแรก / ข้อมูลที่ตรงกัน คือชายไทยวัย35เสียชีวิตจริง / ข้อต่าง!!!ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬา ระบุผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัวใดๆ / ส่วน สธ. ระบุ ผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยไข้เลือดออกมาก่อนนะครับ”

เข้าใจว่ากระทรวงสาธารณสุขอาจจะประเมินสภาวะของผู้ป่วยและตัวโรคคลาดเคลื่อนไปบ้าง 
การวินิจฉัยผู้ป่วยรายนี้ ในครั้งแรกสุด
ผลจากห้องปฏิบัติการออกมาเป็นไข้เลือดออกโดยไม่พบตัวไข้เลือดออก
ทำให้พยาบาลที่เข้าไปดูแลในวันแรกไม่ได้เตรียมตัวป้องกันและติดเชื้อไวรัสนี้ไปด้วยเกิดปอดบวมรุนแรง แต่ได้รับยาทัน และกลับบ้านไปแล้วแต่อย่างไรก็ตามมีเนื้อปอดที่เสียหายอยู่ระดับหนึ่ง

ในผู้ป่วยที่เสียชีวิตรายนี้ ลักษณะของโรคและการดำเนินโรคมีปอดบวมรุนแรงทั้งสองข้างเป็นลักษณะของโควิด 19 ทั้งสิ้นตั้งแต่แรก ไม่ใช่เกิดจากไข้เลือดออก แต่เนื่องจากประเทศไทยได้รับยา favipiravir ในระยะหลังโดยผู้ป่วยมีอาการรุนแรงใส่เครื่องช่วยหายใจและถึงแม้ว่าจะทำให้เชื้อไวรัสหายไปหมดก็ตามแต่มีเนื้อปอดเสียหายมากและในที่สุดผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างสงบ