วันนี้(7 ก.พ.63) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ใหม่ ในวาระ 2 และ 3 ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาใหม่ ในวันที่ 13 - 14 กุมภาพันธ์ นี้ เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎรในการแก้ไขดำเนินการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ส่วนปัญหาเรื่องของความไม่สุจริตในการกดบัตรแทนกันนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ และดำเนินคดีกันต่อไป เพราะไม่ใช่เรื่องคดีอาญา แต่เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.จะดำเนินการตรวจสอบ หากเห็นว่ามีมูลก็จะตรวจสอบ ซึ่งในการพิจารณาวาระ 2 ใหม่นั้น จะเริ่มตั้งแต่มาตรา 1 ต้นไป จนถึงมาตราสุดท้าย และ ใครขอสงวนญัตติในมาตราใด ก็อภิปรายกันไป จนลงมติในวาระ 3 และส่งให้วุฒิสภาพิจารณา ซึ่งขั้นตอนจะไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่นาน เมื่อพิจารณาเสร็จก็จะส่งให้รัฐบาลเก็บไว้ 5 วัน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้า ภายในเดือน ก.พ.นี้
ส่วนจะมีการอภิปรายใหม่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภา จะอภิปรายหรือไม่ แต่ทุกคนต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกำหนดเวลาที่ต้องทำโดยเร็ว ซึ่งตนไม่สามารถชี้นำได้ว่าจะต้องทำอย่างไร โดยในส่วนของรัฐบาลไม่มีอะไรจะต้องทำ แค่รายงานที่ประชุม ครม.วันที่ 11 ก.พ.นี้ ให้รับทราบคำวินิจฉัยเท่านั้น ซึ่งวันนี้ได้รายงานผลคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว
พร้อมกันนี้ นายวิษณุ ยืนยัน การลงมติใหม่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ไม่กระทบกับการเบิกจ่ายงบประมาณประจำเพราะเดิมกำหนดไว้สิ้นเดือนมกราคมซึ่งเมื่อเกิดปัญหาล่าช้าไป 1 เดือน รัฐบาลได้ขอขยายเพดานกรอบการใช้จ่ายงบประมาณไปพรางก่อน จากเดิม 50% เป็น 75% แต่เชื่อว่ายังไม่มีหน่วยงานใดเบิกและทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบร่าง พ.ร.บ. ประมาณรายจ่ายปี 2563