ส่องมาตรการจีนช่วยเหลือเอกชน ลดภาษี-ปล่อยกู้ดอกเบี้ยตํ่า สู้วิกฤติไวรัส

รัฐบาลกลางของจีนกำลังเผชิญความท้าทายที่เรียกได้ว่าเป็น “วิกฤติด้านสาธารณสุข” ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ โดยครั้งนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มมีการรายงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา และมีจุดศูนย์กลางการแพร่เชื้อจากเมืองอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของประเทศ จนถึงขณะนี้ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อแล้วทั่วโลกเกือบ 30,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 500 คน ทำให้รัฐบาลต้องดำเนินการในทุกวิถีทางที่จะควบคุมและแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันได้ออกมาตรการเชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมมีบทบาทในการรับมือกับโรคระบาดดังกล่าวมากขึ้น

ทั้งนี้ ล่าสุดเว็บไซต์ของสภารัฐมนตรีจีน หรือ China’s State Council ได้ประกาศให้ความสนับสนุนแก่บริษัทเอกชนที่เข้ามีส่วนร่วมในการช่วยภาครัฐต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น บริษัทผู้ผลิต จำหน่าย หรือกระจายสินค้าในกลุ่มยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น จะได้รับการอุดหนุนในรูปแบบต่างๆ เช่น ให้เงินกู้ดอกเบี้ยตํ่า (อัตราตํ่ากว่า 1.6%) และการลดหย่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ บรรดาสายการบินของจีนที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งห้ามการเดินทางและการขยายเวลาวันหยุดตรุษจีนให้ยาวนานกว่าปกติ (บางพื้นที่วันหยุดตรุษจีนขยายมาจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์) ก็จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการบิน เป็นต้น

จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า คำสั่งห้ามการเดินทาง รวมทั้งคำสั่งห้ามบริษัททัวร์จำหน่ายตั๋วการเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้การเดินทางของชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ลดลงอย่างฮวบฮาบ 73% (เมื่อเทียบกับสถิติของช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา) เหลือเพียงประมาณ 190 ล้านเที่ยวการเดินทาง ส่วนผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจจีนในภาพรวมของทั้งปี 2563 นั้น เจ้าหน้าที่จีนกำลังอยู่ในระหว่างการประเมิน ซึ่งเชื่อว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ครั้งนี้ จะเป็นปัจจัยซ้ำเติมที่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่มีการชะลอตัวอยู่แล้ว ยิ่งขยายตัวในอัตราที่แผ่วบางลงไปอีก

หน้า 23 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,547 วันที่ 9 - 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563