ชงตั้งตลาดกลาง ปาล์ม ลดผันผวนราคา พี.เค.มารีนจ่อเปิดรายแรก

08 ก.พ. 2563 | 01:45 น.

กนป. เตรียมผลักดันตลาดกลางปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มเลียนโมเดลยางพารา ลดความผันผวนราคา “พี.เค.มารีน” เล็งเปิดระบบซื้อขาย ประมูลน้ำมันปาล์มอ้างอิงราคาตลาดโลกและในประเทศผ่านออนไลน์ เป็นเจ้าแรกในไทย

 

ผลการศึกษาคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ถึงศักยภาพการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มของไทยพบว่ายังมีศักยภาพการผลิตต่ำ เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูง (เกษตรกรมีผลผลิตต่อไร่ต่ำและเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ) และประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานต่ำ (ใช้กำลังการผลิตเพียง 60-70% ของทั้งหมด) อัตราการสกัดน้ำมันต่ำ ส่งผลให้อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มของไทยสูญเสียรายได้ไปในระบบมากกว่าปีละ 1.5 หมื่นล้านบาท (เปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มที่หายไป 1% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5,500 ล้านบาท) ส่งผลให้รายได้เกษตรกรต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ และกรรมการในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มาตรการหนึ่งในการแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำคือการเร่งรัดผลักดันการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. ... ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ ยกระดับเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม ให้สอด คล้องตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบปี 2561 - 2580

ทั้งนี้ต้องมีการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนปาล์มน้ำมันเก่า พิจารณาแนวทางที่เหมาะสมในการลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรให้สอดรับกับ Zoning by Agri-map การกำหนดพื้นที่เหมาะสมเพื่อรองรับการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ส่วนพื้นที่ไม่เหมาะสมควรควบคุมไม่ให้มีการขยายพื้นที่เพิ่มในพื้นที่ใหม่ที่ยังไม่มีการปลูกปาล์มน้ำมัน เช่น ไม่รับขึ้นทะเบียน และมาตรการช่วยเหลือ เยียวยาผู้ที่สมัครใจปรับเปลี่ยนพื้นที่ อาทิ การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น

ขณะที่การจัดตั้งตลาดกลางปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มเพื่อเป็นแหล่งซื้อขายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม จะก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร โดยให้มีการประกาศราคาปาล์มน้ำมัน น้ำมันปาล์ม และผลพลอยได้จากปาล์มน้ำมัน (By product) ได้แก่ เมล็ดใน กะลา ทะลายเปล่าปาล์มทุกวัน และเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เหมือนกับตลาดกลางยางพารา

ชงตั้งตลาดกลาง ปาล์ม  ลดผันผวนราคา  พี.เค.มารีนจ่อเปิดรายแรก

สอดคล้องกับนายอธิราษฎร์ ดำดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กนป. กล่าวว่า เป็นแนวคิด และเป็นหนึ่งในมติของ กนป.ที่จะผลักดันให้มีตลาดกลางปาล์มน้ำมัน เชื่อว่าหากมีตลาดกลางจะทำให้ราคานิ่ง ไม่ผันผวนอย่างทุกวันนี้ แต่ยังไม่ได้มอบหมายให้หน่วยงานใดไปดำเนินการ ต่อเรื่องนี้ได้ผลักดันมาโดยตลอดตั้งแต่ปีที่แล้ว อยากให้เกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อลดความผันผวนของราคาปาล์มจะได้มีราคาอ้างอิง

“ทุกวันนี้จะซื้อขายผลปาล์มจะต้องไปเช็กราคาน้ำมันปาล์มดิบก่อน เพื่อนำมาคำนวณราคาผลปาล์ม ซึ่งลานเทและโรงสกัดจะรับซื้อราคาไม่เท่ากัน มองว่าต้องมีศูนย์ข้อมูลกลางที่เป็นผู้กำหนดราคา ขณะที่กรมการค้าภายในเป็นหน่วยงานสำรวจราคามารายงานไม่ใช่เป็นคนกำหนดราคา แต่มีบางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนกำหนดราคา แล้วเวลาที่รายงานก็มักจะไปหยิบราคาสูงมารายงาน ซึ่งไม่สะท้อนกับความเป็นจริงกับที่เกษตรกรขายได้”

ด้านนายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด (บจก.) กล่าวว่า บริษัทกำลังจะทำตลาดกลางปาล์มน้ำมันล่วงหน้า เป็นรายแรกของประเทศ  โดยจะกำหนดราคากลางเป็นน้ำมันปาล์มดิบ หรือซีพีโอ โดยจะอ้างอิงราคาตลาดโลกและราคาในประเทศ เมื่อมีราคากลาง ทางผู้ขายหรือผู้ประมูลจะได้นำไปกำหนดเพื่อไปรับซื้อผลปาล์มได้ในราคาเท่าไรเพื่อที่จะได้มีกำไร เพราะเมื่อราคาในประเทศถูกจะได้ซื้อแล้วสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ รู้ว่าจะไปซื้อวัตถุดิบเท่าไร เพื่อให้ได้มีกำไร ปัจจุบันการซื้อขายใช้เวลานานมากกว่าจะเจรจากันจบ หากบริษัทตั้งราคาซื้อขาย แล้วใครอยากจะมาซื้อขายก็เข้ามาประมูล คาดว่า 5-6 เดือนข้างหน้าจะมีการเปิดตลาดกลางเพื่อซื้อขายได้

ผู้สื่อข่าวรายงานราคาผลปาล์มน้ำมันทั้งทลาย น้ำหนักมากกว่า 15 กิโลกรัมขึ้นไป ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ราคารับซื้อของโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ในส่วนของบริษัท แสงศิริอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับซื้อที่ 6.40 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซื้อที่ 6.20 บาทต่อกก. ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อน (31 ม.ค.63) บจก.วิจิตรภัณฑ์สวนปาล์ม ตำบลทุ่งคา อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ซื้อที่ 6.30 บาทต่อ กก. 

หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3546 วันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2563