นายสงวน แสงวงศ์กิจ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้หลายภาคส่วนมีความกังวลถึงวิกฤติภัยแล้งโดยเฉพาะการใช้น้ำจากภาคเอกชน ซึ่งเมื่อปลายฝนปี2562 ทางส.อ.ท. ยืนยันชัดเจนว่าปีนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ที่มีน้ำใช้ไม่เพียงพอ และเมื่อไปสำรวจนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่งคืออ่างเก็บน้ำหนองปลาทไหลและอ่างเก็บน้ำดอกกรายยิ่งเกิดความกังวัลเพราะปริมาณน้ำลดลงไปมาก
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอตัวเลขระดับน้ำที่เหลือ ยกตัวอย่าง ระดับน้ำที่อ่างเก็บน้ำดอกกราย ณ 29 มกราคม 2563 มีน้ำใช้การได้เหลือเพียง 27.59 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล มีน้ำใช้การได้ 25.81 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำประแสร์ มีน้ำใช้การได้ 84.37 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ มีน้ำใช้การได้ 5.44 ล้านลบ.ม. ทั้ง4 อ่างเก็บน้ำนี้โดยรวมจะมีน้ำใช้การได้ทั้งสิ้นราว 143.214 ล้านลบ.ม. แต่ระยองมีการใช้น้ำต่อวัน 1.55 ล้านลบ.ม. (รวมใช้โดยภาคอุตสาหกรรม เกษตร อุปโภค-บริโภครวมถึงที่ส่งน้ำจากระยองไปยังชลบุรี)ถ้าเรานำปริมาณน้ำรวม 4 อ่างเก็บน้ำ มาหารกับปริมาณน้ำใช้ เราจะสามารถใช้น้ำได้ในระยะยเวลา 92 วันเท่านั้น กรณีที่ไม่มีฝน หรือใช้ได้ถึงเดือนเมษายน 2563 ซึ่งช่วงนั้นยังไม่มีฝน และฝนจะมาในปลายเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน หรือช้ากว่านั้น ถ้าไม่มีฝนลงมาถือว่ามีความเสี่ยงสูง หากฝนไม่ตก หรือตกช้า และการผันน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผันไม่ทัน เชื่อว่าจะกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
อ่างเก็บน้ำดอกกราย
“ล่าสุดกรมชลประทานเจรจากับลุ่มน้ำวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ขอผันน้ำจำนวน 10 ล้านลบ.ม.มาลงไว้ในอ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ แล้วผันต่อมายังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำดอกกราย ก็เป็นอีกส่วนที่สำรอง ไว้”
อ่างเก็บนำ้หนองปลาไหล