หย่าศึก “ปมนำเข้าแม่ไก่ไข่” หวั่นบานปลาย

20 ม.ค. 2563 | 11:40 น.

นายกสมาคมไข่ไก่ส่งสารปรามรายใหญ่ป่าวประกาศลูกไก่จะขาด 3-5 ปี แต่จะให้เพิ่มนำเข้าพันธุ์สัตว์ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ร้องปศุสัตว์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

หย่าศึก “ปมนำเข้าแม่ไก่ไข่” หวั่นบานปลาย

แหล่งข่าวจากสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้ส่งสาร์นผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ถึงสมาชิกว่า วันนี้ 20 ม.ค. อีก  10 กว่าวัน จะสิ้นเดือนแรกของปีแล้ว วันเวลาช่างเร็วเหลือเกินพอๆกับจิตใจคนเราที่เปลี่ยนไปมาชอบบ้างชังบ้างทั้งๆที่เป็นเรื่องเดียวกันแต่ต่างกันแค่วันเวลาเท่านั้น

หย่าศึก “ปมนำเข้าแม่ไก่ไข่” หวั่นบานปลาย

ในรอบสัปดาห์มีข่าวจากเกษตรกรคนเลี้ยงไก่ไข่ที่ฮือฮาหรือเป็นที่สนใจคนในวงการคือเรื่องการขอพันธ์ุสัตว์ (Ps ) และการออกมาคัดค้านจากท่านนายกฯ รายย่อยฯและเกษตรกรอีกหลายท่าน จริงๆแล้วทุกท่านเป็นกรรมการของสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกคน ผมขอบอกว่าเป็นความคิดเห็นที่มีความหลากหลายทางความคิดจะเห็นด้วยหรือคัดค้านล้วนต้องฟังเหตุผลทั้งนั้น และต้องยอมรับว่าหลายปีมานี้สภาพปัญหาที่เกิดขี้นกับวงการเราเมื่อเกิดขึ้นในแต่ละช่วงไม่พ้นพวกเราต้องเดือดร้อนต้องเรียกร้องให้ราชการและผู้มีหน้าที่ต้องแก้ไข 

หย่าศึก “ปมนำเข้าแม่ไก่ไข่” หวั่นบานปลาย

“พันธ์ุสัตว์” คือต้นน้ำที่ทุกฝ่ายเห็นด้วยต้องมีตัวเลขที่ชัดเจนเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยามพวกเราลำบากส่งผลกระทบกันทั่วหน้าตั้งแต่คนผลิตพันธ์ุสัตว์คนเลี้ยง แม้แต่คนที่เกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่การลดพันธ์ุสัตว์แต่ละครั้งย่อมส่งผลกระทบกับคนที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกันการกำหนดกติกาที่มีความเป็นธรรมต้องกำหนดและปฏิบัติให้ได้อันนี้ผมหมายถึงกรมปศุสัตว์และบริษัทที่มีพันธ์ุสัตว์จะต้องกระจายให้ทั่วถึงและเป็นธรรมอย่าให้เกิดปัญหาขึ้น!!

หย่าศึก “ปมนำเข้าแม่ไก่ไข่” หวั่นบานปลาย

“เช่นพวกใครพวกมัน ต้องคิดเสมอว่าเป็นพวกเราทั้งนั้น อย่าเอากรณีพันธุ์ที่ลดลงจากมาตรการที่พวกเราทำร่วมกันมาต่อรองสร้างเงื่อนไขต่างๆจนเกิดปัญหาตามมา เช่น มีพนักงานขายเที่ยวไปบอกให้ทั่วไปหมดลูกไก่จะขาดไป 3 ปี 5 ปี สร้างแรงกดดันกับคนเลี้ยงไข่ก็ถูกลงราคามาหลายเดือนหลายแห่งแย่งกันขายไม่หยุด เป็นภาพที่ขัดแย้งกับการลดพันธ์ุสัตว์หลายคนถามไข่ไก่มาจากไหน  บางคนบอกเพราะเศรษฐกิจไม่ดี มีเหตุผล แต่ทำไมหมูขึ้นเอาๆ มีคนซื้อหมูกิน ที่จริงยังมีปัญหาอีกมากมาย”

หย่าศึก “ปมนำเข้าแม่ไก่ไข่” หวั่นบานปลาย

แต่กรณีของผู้เลี้ยงที่สุพรรณบุรี ผมว่าไม่มีใครผิดใครถูกเพียงแต่ให้ข้อคิดกับสังคมว่าความคิดของผู้คนห้ามไม่ได้แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบใหญ่ที่ทุกคนทุกฝ่ายต้องอยู่ได้ทุกฝ่ายต้องเปิดใจรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ตราบใดคนในวงการยังไม่ตกผลึกและเป้าหมายที่พวกเราหวังไว้ยังไม่เป็นไปตามนั้นการพูดคุยตามเหตุผลที่ให้ทุกฝ่ายเห็นตามจึงเป็นความจำเป็นต้องยอมรับในสิ่งนั้น

หย่าศึก “ปมนำเข้าแม่ไก่ไข่” หวั่นบานปลาย

อนึ่ง การเพิ่มหรือลดพันธ์สัตว์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆจึงต้องคิดไตร่ตรองให้รอบครอบ ถึงอย่างไรอยากให้สังคมไก่ไข่ได้มีสติคิดอ่านทำอะไรให้นึกส่วนรวมไว้ให้มั่น เพราะถ้าส่วนรวมไปได้  พวกเราทั้งหมดก็ไปได้อย่าไปคิดคิดกันว่าจะเกิดการกินรวบ  ผมว่าราชการไทยคงไม่ยอมรวมทั้งพวกเราด้วยจริงไหม!!