"ฉลอง"สารภาพเสียบบัตรทิ้งไว้จริง

20 ม.ค. 2563 | 11:22 น.

“ฉลอง”สารภาพเสียบบัตรทิ้งไว้จริง แต่อ้างไม่ได้ให้ใครเสียบบัตรแทนเพื่อโหวตร่างพรบ.งบประมาณ ด้าน “นิพิฏฐ์” ชี้เป็นไปไม่ได้ที่จะอ้างว่าเสียบบัตรคาไว้ แล้วมีคนไปกดแทน เหตุไม่สามารถเก็บบัตรไว้ข้ามคืนได้ เจ้าหน้าที่จะนำบัตรออกจากเครื่อง เพื่อรีเซ็ตระบบใหม่

วันนี้(20 ม.ค.63) นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงถึงกรณีที่ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ระบุ นายฉลอง ให้บุคคลอื่นกดบัตรแสดงตนและลงคะแนนแทนระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ที่รัฐสภา ว่า ได้ออกจากรัฐสภาช่วงค่ำของวันที่ 10 ม.ค.63 จริง และได้เสียบบัตรทิ้งไว้ แต่ไม่ได้มอบหมายให้ใครกดแทน 


“ผมต้องรีบกลับบ้านเพื่อเตรียมการรับศพญาติภายหลังจากประสบอุบัติเหตุ 5 ศพ ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต้องประสานนำศพกลับบ้าน” นายฉลอง ระบุ
 

 

 

ก่อนหน้านั้น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มีเหตุการณ์ ส.ส.กดบัตรแทนกันในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 10-11 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วาระที่ 2 รายมาตราและวาระที่ 3 โดยตรวจสอบ พบว่า นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ขึ้นเครื่องบินเดินทางไปสนามบินหาดใหญ่เวลา 20.50 น.ของวันที่ 10 มกราคม แต่ปรากฏว่าลงมติเห็นชอบ มาตรา 31 ในเวลา 20.55 น.ของวันเดียวกัน และร่วมลงมติตลอดจนถึงมาตรา 39 และปิดประชุมในเวลา 01.08 น. ก่อนจะร่วมลงมติต่อเนื่องในวันที่ 11 มกราคม ตั้งแต่มาตรา 40 เวลา 11.10 น. ไปจนถึงลงมติวาระที่ 3 เห็นชอบร่างทั้งฉบับเวลา 17.32 น. และเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เวลา 17.38 น.  


ขณะที่มีหลักฐานปรากฏใน Facebook ของ ทต.อ่างทอง จ.พัทลุง ว่า วันที่ 11 มกราคม 2563 นายฉลอง ลงพื้นที่เป็นประธานเปิดงานวันเด็กทั้งวัน ทั้งเทศบาลตำบลอ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ และองค์การบริหารส่วนตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง และขึ้นเครื่องจากสนามบินนครศรีธรรมราช มาสนามบินดอนเมืองอีกครั้งในวันที่ 13 มกราคม เวลา 11.55 น. 

 

 

“เป็นไปไม่ได้ที่จะอ้างว่าเสียบบัตรคาไว้ แล้วมีคนไปกดแทน เนื่องจากไม่สามารถเก็บบัตรไว้ข้ามคืนได้ เพราะเจ้าหน้าที่จะนำบัตรออกจากเครื่องลงคะแนน เพื่อรีเซ็ตระบบใหม่ และเตรียมใช้ในวันถัดไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงหมายความว่ามีเจตนาจงใจใช้บัตรแทนกัน นำบัตรของนายฉลองไปกดลงมติ ทั้งที่ไม่อยู่ในห้องประชุม แต่ไม่รู้ว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว 


นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจทำให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ตั้งแต่มาตรา 31 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยนายอดิศร ทองธิราช ส.ส.พรรคเพื่อไทย กดบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ปี 2557 โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การกระทำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและถือว่ามติของสภาผู้แทนราษฎรเป็นโมฆะ มีผลทำให้กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยกฎหมาย