เคาะราคา ‘ข้าว-มัน’ พ่อค้าแย่งซื้อราคาพุ่ง

แหล่งข่าวอนุกรรมการกำกับดูแลและการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง ราคาเกณฑ์อ้างอิงประจำวันที่ 3 มกราคม 2563 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่าง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562/63 รอบที่1 งวดที่9 ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยววันที่ 29 ธันวาคม 2562-4 มกราคม 2563 สำหรับความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,653.40 บาท ได้รับการชดเชย ตันละ 346.60 บาท

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,736 บาท ได้รับการชดเชยตันละ 264 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 7,799.67 ได้รับการชดเชย 2,200.33 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,517.12  บาท ได้รับการชดเชย ตันละ 1,482.88 บาท

5 ข้าวเปลือกเหนียว ราคาสูงกว่าเป้าหมายไม่ได้รับการชดเชย

จากกรณีดังกล่าวนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จึงได้สอบถามนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวถึงสถานการณ์ราคาข้าวในช่วงนี้ที่ปรับตัวขึ้นมาเพราะความต้องการของตลาดในกลุ่มของข้าวเปลือกเจ้า หรือกลุ่มข้าวขาว 5% ที่ผู้ส่งออกไปขายไว้จะต้องมีภาระส่งมอบข้าวจะต้องเร่งซื้อ ส่วนข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวหอมมะลิ ราคาซึมยาว ความผันผวนเรื่องค่าเงินบาทแข็งก็น่าเป็นห่วงในการโค๊ดราคาขายต่างประเทศ

สอดคล้องกับเติมศักดิ์ บุญชื่น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง โครงการประกันรายได้มันสำปะหลัง  กล่าวว่า การชดเชยส่วนต่างประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังระหว่างราคาเป้าหมาย กิโลกรัมละ 2.50 บาท/กิโลกรัม ในการจ่ายเงินงวดที่2 กิโลกรัมละ 26 สตางค์ (ขณะที่รอบ 1 รัฐชดเชย 23 สตางค์) สาเหตุที่รัฐบาลจ่ายชดเชยน้อยลงในรอบนี้เพราะเกษตรกรขุดหัวมันขึ้นมาขายน้อย และพวกผู้ประกอบการต้องแย่งกันซื้อเพื่อป้อนกระบวนการผลิตไม่ให้มันสำปะหลังขาดแคลน

เอกสารประกันรายได้ข้าว (งวดที่9)

เอกสารประกันรายได้มันสำปะหลัง (งวดที่2)