“บิ๊กตู่”ตรวจภัยแล้ง ชมไร่อ้อยยุคใหม่ ที่ชัยภูมิ 25ธ.ค.

23 ธ.ค. 2562 | 10:49 น.

นายกฯลงพื้นที่ชัยภูมิ 25 ธ.ค. ตรวจงานแก้ภัยแล้ง-เกษตรไร่อ้อยสมัยใหม่ด้วยนวัตกรรมและลดมลพิษ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.62 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการที่จ.ชัยภูมิ ในวันที่ 25 ธ.ค. 2562 เพื่อติดตามการปัญหาภัยแล้ง และเยี่ยมชมการจัดการเกษตรไร่อ้อยสมัยใหม่ด้วยนวัตกรรมและลดการสร้างมลพิษ พร้อมทั้งสร้างรายได้เสริมจากการทำการเกษตรตามนโยบายแห่งรัฐ  โดยในช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีและคณะ จะออกเดินทางโดยเครื่องบินออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น  และเดินทางต่อโดยเฮลิคอปเตอร์ จากโรงเรียนกุดตุ้มวิทยา ไปยังบริเวณจัดงานที่คลองเทา บ้านหนองแหน จ.ชัยภูมิ  เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูและพัฒนาคูคลองโดยการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชน

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมปลูกต้นมะม่วงพันธุ์เขียวเสวย และปลูกหญ้าแฝกกับประชาชนด้วย  จากนั้น นายกฯจะเดินทางไปยังไร่กุดจอก อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เพื่อพบปะประชาชนและตรวจเยี่ยมการตัดอ้อย สางใบอ้อย และเก็บใบอ้อย ด้วยวิธีทำไร่อ้อยสมัยใหม่ซึ่งเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการไร่อ้อยอย่างยั่งยืนจากองค์ความรู้ที่ได้มีการนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย เสริมประสิทธิภาพในการทำไร่อ้อยและลดการเผาอ้อยและลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 ด้วย

 

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

 

 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า  ต่อมา ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน  นายกฯและคณะ จะเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านภูดิน (มิตรผลอุปภัมภ์) ที่เข้าโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา เพื่อเยี่ยมชมการเรียนการสอนลักษณะการเรียนรู้จากการปฏิบัติและเยี่ยมชมนิทรรศการพัฒนาทักษะอาชีพ ได้แก่ การทำน้ำอ้อยคั้นสด  การจับจีบผ้า  และการทำมาลัยมะกรูดใบเตย  เยี่ยมชมการสาธิตการบังคับหุ่นยนต์โดยเด็กพิเศษซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทักษะการเขียนโปรแกรม (โค้ดดิ้ง) ที่ห้องศูนย์การเรียนรู้ และเยี่ยมชมแปลงเพาะชำอ้อยของโรงเรียนดังกล่าว ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเย็นวันเดียวกัน  


       

สำหรับโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปร่วมพัฒนาโรงเรียน พัฒนาศูนย์การเรียนรู้ เพื่อวางรากฐานการศึกษาแก่ลูกหลานเกษตรกรในพื้นที่และลูกหลานคนในชุมชน ต่อยอดโครงการโรงเรียนประชารัฐ โดยนายกรัฐมนตรีเห็นถึงความสำคัญในการให้เยาวชนไทยทุกคน ทุกที่ มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาตาม