มติเอกฉันท์ 5 : 0 ตั้ง”อรรถพล”นั่งซีอีโอ ปตท.

นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ในการกระชุมคณะกรรมการบริหารหรือบอร์ดปตท. วันนี้(19 ธ.ค.62) ได้มีวาระการพิจารณาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือCEO คนที่ 10 ต่อจากนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ที่จะหมดวาระในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 โดยมีมติเห็นชอบให้นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.มีคุณสมบัติครบตามในการนั่งเป็นซีอีโอปตท.คนใหม่ ตามการเสนอของคณะกรรมการสรรหา มีนายดอน วสันตพฤกษ์ เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานหอการค้าไทย นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ธีรวัฒน์ บถญยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ 5 : 0 ในการเสนอชื่อนายอรรถพล เป็นซีอีโอปตท.คนที่ 10 ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติงานบริหารการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 13  พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

                                        นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ 

ทั้งนี้ กระบวนการสรรหาฯ จะเสร็จสมบูรณ์  เมื่อนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ดำเนินการเจรจาค่าตอบแทนและข้อสัญญาจ้างกับคณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนฯ  หลังจากนั้น จะได้นำผลการเจรจาดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการ ปตท. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและลงนามสัญญาจ้าง หลังจากนั้นจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป 

สำหรับประวัติ นายอรรถพล ปัจจุบันอายุ 54 ปี ถือเป็นลูกหม้อของ ปตท. ที่ทำงานมานานถึง 30 ปี ผ่านงานมาแล้วมากกว่า 17 ตำแหน่ง และเป็นกรรมการบริษัท 16 บริษัท โดยเป็นประธานกรรมการ 8 บริษัท รวมทั้งเป็นกรรมการบริษัท Flagship ของกลุ่ม ปตท. ทั้ง IRPC, GC, THAIOIL, PTTOR (ประธาน)

มีประสบการณ์ทำงานหลากหลายครอบคลุมทุกมิติ ในการบริหารโครงการขนาดใหญ่ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 4 ควำมยาว 300 กิโลเมตร  มูลค่า 40,000 ล้านบาท และบริหารวิกฤตระหว่างการก่อสร้างได้สำเร็จ

อีกทั้ง ประสบความสำเร็จขยายธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกไปสู่ตลาดต่างประเทศ จนปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในต่างประเทศกว่า 300 สถานี Café Amazon มากกว่า 200 สาขา และขยายธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นไปแล้ว 42 ประเทศทั่วโลก

สร้างผลประกอบการสูงสุดให้กับหน่วยธุรกิจน้ำมันของ ปตท. EBITDA กว่ำ 23,000 ล้านบาทในช่วงการดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารหน่วยธุรกิจน้ำมันของ ปตท.และขับเคลื่อนสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมัน จัดตั้งบริษัท PTTOR เป็นบริษัท Flagship ใหม่ด้านน้ำมันและค้าปลีกของกลุ่ม ปตท. ซึ่งต้องใช้ความรู้ความสามารถครบทุกด้าน ธุรกิจ การเงิน บัญชี กฎหมาย โครงสร้างองค์กร และบริหารบุคลากร

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานของบริษัท PTTOR ผลักดันมาตรฐานสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และสร้างให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และสร้างการเติบโตร่วมกับสังคมและชุมชน รวมทั้ง ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ทำหน้าที่กำกับดูแล และกำหนดทิศทำงให้กับกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายของกลุ่ม ปตท. ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีก และกำกับดูแลบริษัท Flagship ของกลุ่ม ปตท. ถึง 4 บริษัท คือ IRPC, THAIOIL, GC และ PTTOR (ควบกับตำแหน่งประธานบริษัทด้วย) ซึ่งธุรกิจขั้นปลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่ม ปตท. ถึง 80% ของรายได้ทั้งหมด (รายได้กลุ่ม ปตท. 2.1 ล้านล้านบาทต่อปี)