พิษถือหุ้นสื่อ “ศรีสุวรรณ”ยื่นกกต.ฟันอาญา“ธนาธร-10พยาน”

22 พ.ย. 2562 | 05:09 น.

 

“ศรีสุวรรณ”จี้กกต.เร่งดำเนินคดีอาญา “ธนาธร” พ่วงเอาผิดพยาน 10 ปากฐานเบิกความเท็จต่อศาล พร้อมยื่นศาลรธน.เอาผิด “พ่อฟ้า”ซ้ำเหตุวิจารณ์ไม่รับคำวินิจฉัย

วันนี้ (22 พ.ย.62) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้เร่งดำเนินคดีอาญากับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลง เนื่องจากถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชัดเจนและตามกฎหมายถือเป็นเด็ดขาดผูกพันทุกองค์กร  จึงอยากให้กกต.ดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 ที่กำหนดว่าบุคคลที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วยังมาลงสมัตร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี โดยยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งโดยเร็ว

นอกจากนี้ขอให้กกต.ดำเนินการตรวจสอบพยาน 10 ปากที่ศาลเรียกไต่สวนในคดีนี้เนื่องจากทั้งหมดเป็นพยานฝ่ายนายธนาธร เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลในคดีนี้ชี้ให้เห็นว่า การให้ถ้อยคำของพยานทั้งหมดต่อศาลในชั้นไต่สวนไม่ได้เป็นไปตามข้อเท็จจริงอาจจะเป็นการเบิกความเท็จต่อศาลได้ ซึ่งก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5ปี  เดือนหรือปรับไม่เกิน 1หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นหากกกต.เห็นว่าละเมิดจริงก็ขอให้เร่งดำเนินการส่งฟ้องตามกฎหมาย

                                          พิษถือหุ้นสื่อ “ศรีสุวรรณ”ยื่นกกต.ฟันอาญา“ธนาธร-10พยาน”
 

 

อย่างไรก็ตาม นายศรีสุวรรณ ยังเห็นว่ากรณีของนายธนาธร ยังไม่ถึงขั้นทำให้ต้องยุบพรรคอนาคตใหม่ แม้จะมีผู้มองว่ากกต.สามารถเอาผิดได้ตามมาตรา 132 ของพ.รป.ว่าด้วยเลือกตั้งส.ส. แต่ตนก็มองว่ากฎหมายมาตราดังกล่าวกำหนดลักษณะการกระทำที่กกต.พบก่อนการเลือกตั้ง แต่กรณีของนายธนาธร กกต.พบหลังเลือกตั้งไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายคำร้องที่มีน้ำหนัก ซึ่งตนยื่นขอให้พิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ เช่นกรณีนายธนาธรให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น นายศรีสุวรรณ ก็ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้ดำเนินการกับนายธนาธร ฐานละเมิดศาลจากกรณีหลังศาลมีคำวินิจฉัยในคดีนี้แล้ว นายธนาธรให้สัมภาษณ์ในลักษณะไม่ยอมรับคำวินิจฉัย โดยมีการะบุว่า ศาลยึดข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์ในการวินิจฉัย  รวมทั้งที่มีการระบุว่า ศาลไม่เคยทำธุรกิจจึงไม่เข้าใจรสนิยมในการลงทุน  ซึ่งนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ถ้อยคำลักษณะดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายเป็นการเสียดสี  ตามมาตรา 38 วรรคท้าย และมาตรา 39 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบข้อ 10 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ศาลดำเนินการตรวจสอบ


 

 

“ที่นายธนาธร อ้างว่าไม่ได้ใช้คำหยาบคาย แสดงความเห็นโดยสุจริต เรื่องนี้นายธนาธร ไม่สามารถกล่าวอ้างได้ว่า คำพูดของตัวเองเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นศาลหรือไม่ ต้องให้ศาลในฐานะผู้ถูกกระทำเป็นผู้วินิจฉัยตามหลักเกณฑ์ข้อ 10 ของข้อกำหนดศาลฯ หรือไม่”