"ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่" บูมตลาดเก๋งปลายปี-ปั๊มยอดรวม 1.2 แสนคัน
ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หลังเศรษฐกิจโลกป่วน ไฟแนนซ์เข้มปล่อยสินเชื่อ หนี้ครัวเรือนสูง โดยยอดขาย 9 เดือน มีอัตราเติบโตลดลง ลุ้น 3 เดือนสุดท้ายของปี “ฮอนด้า” มุ่งเป้า 1.2 แสนคัน พร้อมเปิดตัว “ซิตี้ โฉมใหม่” ใช้สิทธิอีโคคาร์เฟส 2 ส่วน “แจ๊ซ” รอปีหน้า
ภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 62) ทำยอดขายได้ 761,847 คัน เพิ่มขึ้น 2.0% แม้ตัวเลขสะสมยังคงเติบโต แต่เมื่อเจาะลึกรายละเอียดลงไปจะเห็นสัญญาณการขายที่ถดถอย เฉพาะเดือนกันยายน 2562 ตลาดรวมทำได้ 76,195 คัน ลดลง 14.1% และถือเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ยอดขายหดตัว
“ครึ่งปีแรกตลาดโตเยอะ แต่พอ 4 เดือนหลังจากนั้นช่องว่างการเติบโตเริ่มลดลงเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่าตลาดเริ่มชะลอตัว และเมื่อมองจากปัจจัยแวดล้อมก็ประเมินว่าตลาดไม่ได้อยู่ในช่วงขาขึ้นแน่นอน ส่วนสิ้นปีตัวเลขการขายจะชนะปีที่แล้วหรือไม่นั้น คาดว่ายาก แต่ทั้งนี้ต้องรอดู 3 เดือนสุดท้ายของปีว่าหลายค่ายจะกระตุ้นตลาดอย่างไร ประกอบกับเป็นฤดูกาลขายรถ ซึ่งมองภาพรวมๆถ้าทำได้เท่าๆกับปีที่แล้วถือว่าดี แต่กรณีที่แย่ที่สุดก็อาจจะไม่ถึงล้านคัน” นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า
แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมจะเริ่มหดตัว แต่เมื่อกลับมาดูการดำเนินงานของค่ายฮอนด้าพบว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ด้วยยอด 97,695 คัน โต 5.1% ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดในเซ็กเมนต์รถยนต์นั่งช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 27.5% เพิ่มขึ้นจากเดิม 26.5%
“ยอดขายเราเติบโตเหนือตลาดรวม แต่ด้วยปัจจัยเสี่ยงซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก เป็นสิ่งที่เราฝืนตลาดไม่ได้ และต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดตรงนี้ไว้ให้ได้” นายพิทักษ์ กล่าว
แนวทางการตลาดของฮอนด้าที่จะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดตามที่ได้วาดเป้าไว้ เท่าที่เห็นตอนนี้ คือ เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ฮอนด้า ซิตี้ ที่สวมสิทธิในโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร
“ภาพรวมตลาดตก แต่ไม่ได้กระทบกับแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เร็วๆนี้จะเปิด ซิตี้ โฉมใหม่ ส่วนฮอนด้า ฟิต หรือ แจ๊ซ ที่เพิ่งเผยโฉมในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ เตรียมขายในญี่ปุ่นปีหน้า ส่วนประเทศไทยยังไม่ใช่เร็วๆนี้ ขณะที่ผลการตอบรับของรถรุ่นใหม่ๆที่เราได้เปิดตัวสู่ตลาด อย่าง แอคคอร์ด ได้รับการตอบรับที่ดี ด้วยยอดจองสะสม 6,000 คันในช่วง 4 เดือนหลังจากเปิดตัว แบ่งสัดส่วนออกเป็นรุ่นเทอร์โบ และ รุ่นไฮบริดเท่ากันที่ 50%”
อีกกลยุทธ์ที่ฮอนด้าใช้มาโดยตลอด และช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตในช่วงที่ผ่านมาคือ แคมเปญสนับสนุนการขาย จากการสำรวจพบข้อเสนอพิเศษที่ออกมาตอนนี้และลากยาวไปจนถึงสิ้นปี คือซื้อรถทุกรุ่นรับจักรยานพับโมดูโล มูลค่า 7,990 บาท ข้อเสนอดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.99%, ฟรีประกันภัยชั้น 1, บัตรเติมนํ้ามัน 1 หมื่นบาท หรือจะเป็นแคมเปญ ดับเบิลสไมล์ ดาวน์ 0 บาท ประกัน 0 บาท
ถือเป็น 2 กลยุทธ์หลักที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ฮอนด้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ด้วยยอดขาย 1.2 แสนคัน ใกล้เคียงกับปี 2561 อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงที่ฮอนด้าประเมินว่าจะมีผลกับภาพรวมอุตสาหกรรม ประกอบไปด้วย ภาวะเศรษฐกิจขาลง , การส่งออก, ความเชื่อมั่น, การลงทุน, ค่าเงินบาทแข็ง, สงครามการค้า, เบร็กซิท
นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการส่งออก เป็นฐานการผลิต ดังนั้นปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทแข็งคือสิ่งที่เข้ามากระทบ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้อง-ภาครัฐก็ยังดูอยู่ และปัจจัยนี้ไม่ได้กระทบเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์แต่รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆด้วย และตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลแต่ในระยะยาวจะกระทบแน่นอน หากไม่สามารถทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงมา
“ในสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็ง เมื่อเราส่งของออกไป และคำนวณเป็นอัตราแลกเปลี่ยนทำให้คู่ค้าของเรามีต้นทุน มีราคาที่สูงขึ้น แต่หากถามในตอนนี้ถือว่ายังอยู่ในวิสัยที่รับได้ และประคองการผลิตไม่ให้กระทบ แต่หากว่าค่าเงินแข็งค่ามากและนานจะกระทบความสามารถด้านการแข่งขันของบ้านเราที่ลดน้อยลง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจถ้าต้านทานไม่ไหวและอาจย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆที่ตนเองมีโรงงานตั้งอยู่” นายพิทักษ์ กล่าว
เรียกว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้น และเมื่อถามถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับแรงงานหรือการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่นั้น “หัวเรือใหญ่จากค่ายฮอนด้า” ยืนยันว่า สิ่งที่จะกระทบกับพนักงานในตอนนี้ยังไม่มี เพราะดูจากยอดขายถือว่าฮอนด้าเติบโตเหนือกว่าตลาด ส่วนการเปลี่ยนแปลงแผนการ ผลิตนั้นทำอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญ ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมใหม่ ที่เตรียมขายในประเทศญี่ปุ่นช่วงต้นปี 2563 จะถูกส่งมาจากโรงงานผลิตของฮอนด้า นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ถือเป็นความภูมิใจของ ฮอนด้าออโตโมบิลประเทศไทย
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,520 วันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562