สำนักงานเศรษฐกิจภูมิภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนสิงหาคม 2562 ของธปท.สาขาภาคทั้ง 3 แห่ง คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และภาคใต้ พบว่า มีทิศทางเดียวกันคือ มีอัตราการขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน ตามการชะลอตัวของการบริโภค การใช้จ่ายลงทุนภาครัฐและเอกชนที่ลดลงตามการผลิต จากการส่งออกที่ชะลอลงจากปัญหาสงครามการค้า การซื้อขายสินค้าคงทนหดตัว
อีสานลดซื้อไฟฟ้าลาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจาะลึกรายงานภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว พบว่า ภาคอีสานเดือนสิงหาคม ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน จากการใช้จ่ายสินค้าในชีวิตประจำวันที่ชะลอตัว หลังผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทยอยหมดไป ขณะที่การใช้จ่ายสินค้าคงทนหมวดยานยนต์ที่กลับมาหดตัว
ด้านภาคการท่องเที่ยวในอีสานขยายตัวต่อเนื่อง จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนที่เพิ่มขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวและนักทัศนาจร สอดคล้องกับรายได้บริการสาขาโรงแรมและภัตตาคารที่ขยายตัวจากหมวดอาหาร อย่างไรก็ตาม อัตราการเข้าพักแรมปรับฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อนบ้าง จากการจัดประชุมและสัมมนาที่ลดลง
ขณะที่ผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวต่อเนื่อง จากผลผลิตยางพาราและมันสำปะหลัง ตามพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีสาขาเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐยังคงหดตัว
มูลค่าการค้าผ่านด่านศุลกากรในภาคอีสานกลับมาหดตัวตามการนำเข้า โดยเฉพาะการนำเข้าโทรศัพท์มือถือจากจีนตอนใต้และเวียดนามที่ลดลง เนื่องจากผลกระทบของสงครามการค้า และการนำเข้าไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ที่ชะลอตัว สำหรับการส่งออกขยายตัวชะลอลง ตามการส่งออกรถยนต์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมไป สปป.ลาว ที่ลดลง และการส่งออกผลไม้ไปเวียดนามที่ชะลอตัว
เหนือลดซื้อรถ-บ้าน
ขณะที่การชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือเดือนสิงหาคม มีเหตุจากการบริโภคภาคเอกชนชะลอตัว ตามการลดลงในหมวดสินค้าคงทน ขณะที่สินค้าในชีวิตประจำวันขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านผลผลิตอุตสาหกรรมกลับมาลดลงตามการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป เนื่องจากวัตถุดิบลดลงและการผลิตเพื่อส่งออกลดลงตามความต้องการจากต่างประเทศ โดยเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัว ทั้งด้านการก่อสร้างและการผลิต และการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวทั้งรายจ่ายประจำและลงทุน เป็นผลจากฐานสูงและงบจัดสรรน้อยกว่าปีก่อน
ด้านภาคการท่องเที่ยวขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on arrival) ประกอบกับชาวเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ยุโรปและเอเชียอื่นๆ ยังขยายตัวต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวชาวไทยปรับดีขึ้นเป็นลำดับ
การค้าผ่านชายแดนของภาคเหนือ มูลค่าส่งออกในรูปเงินบาทหดตัว 7.0% ตามการหดตัวของการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักรและอุปกรณ์ วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหารและยา ผลิตภัณฑ์ยาง และเนื้อไก่แช่แข็ง อย่างไรก็ดี มังคุดและทุเรียนยังขยายตัวดีตามความต้องการของตลาดจีน ทางด้านการนำเข้าขยายตัว 32.2% ตามการนำเข้าไฟฟ้าจากลาวและสินค้าเกษตรจากเมียนมา
ใต้ส่งออกวูบหนัก41.7%
ส่วนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในเดือนสิงหาคมของภาคใต้ รายงานระบุมีสาเหตุจากภาคอุตสาหกรรมหดตัวสอดคล้องกับมูลค่าการส่งออก จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ด้านการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนก็ขยายตัวชะลอลง ตามการใช้จ่ายหมวดสินค้าในชีวิตประจำวันและหมวดยานยนต์ การลงทุนภาคเอกชนแผ่วลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวต่อเนื่อง
รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง โดยหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน3.0% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่หดตัว ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตามมีสัญญาณบวกจากที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมาขยายตัวเป็นเดือนแรก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวอินเดียยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง
ด้านการค้าของภาคใต้ เดือนสิงหาคมมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน 41.7% เป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัวเป็นสำคัญ สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว ส่งผลให้การผลิตลดลงในหลายหมวด โดยเฉพาะการผลิตและส่งออกยางพาราแปรรูป ไม้ยางพาราแปรรูปและผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดจีน ขณะเดียวกันการผลิตอาหารทะเลกระป๋องหดตัวตามการผลิตเพื่อส่งออก ด้านการผลิตถุงมือยางหดตัวตามความต้องการของตลาดยุโรปที่ลดลงต่อเนื่อง
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,518 วันที่ 31 ตุลาคม- 2 พฤศจิกายน 2562