การวิเคราะห์ของมูดี้ส์ มีข้อมูลจากฐานความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาขณะที่ทรัม์ปดำรงตำแหน่ง รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตัวเลขคนว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี ทั้งสามส่วนนี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทรัมป์สามารถชนะการเลือกตั้งและอยู่ต่อได้อีก 4 ปี
เมื่อมองถึงรูปแบบการคาดการณ์ของมูดี้ส์ ปรากฏว่ามีความแม่นยำสูง หากย้อนกลับไปเมื่อปี 1980 คาดการณ์ผิดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
มาร์ก แซนดิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ มูดี้ส์ แอนนาไลติกส์ กล่าวว่า “ถ้านับจากนี้ไปอีกปี เศรษฐกิจไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากจากวันนี้ คงอยู่ประมาณนี้ อำนาจและความแข็งแกร่งจะเกิดขึ้นการเลือกตั้งของทรัมป์เห็นได้ชัดว่าเป็นไปในทางที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าฝั่งของเดโมแครต ไม่กระตือรือร้นที่ออกไปใช้คะแนนเสียง”
จาก 3 รูปแบบที่ทำการคาดการณ์พบว่า ทรัมป์จะได้โหวตเฉลี่ยมากถึง 289
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีการวัดถึงความรู้สึกของผู้คนที่มองเกี่ยวกับปากท้องของตัวเอง ในสมมุติฐานดังกล่าว พบว่าทรัมป์จะได้คะแนนเสียงมากถึง 351 และฝั่งเดโมแครตจะได้ 187 เสียง
ด้านตลาดทุนเสียงของทรัมป์ไม่ได้ชนะขาด 289-249 ส่วนรูปแบบของการจ้างงานพบว่า ชนะแบบขาดลอย 332-206 เสียง และเฉลี่ยทั้ง3รูปแบบ ทรัมป์จะชนะเฉลี่ยมากถึง 324-214
ตามแนวทางการคาดการณ์แล้ว รูปแบบที่สำรวจเป็นการขับเคลื่อนจากปัจจัยเศรษฐกิจ ถ้าประชาชนออกไปโหวตตามรูปแบบของไพรม์เมอร์รี่โหวตที่คาดการณ์ไว้ การแข่งขันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีก็จะดำเนินไปตามทางนี้เช่นกัน
ผลที่ปรากฎออกมามีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลากหลายมิติ นับตั้งแต่ปากท้องในระดับครัวเรือนที่ส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย
ในระดับตลาดทุนก็มีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งการขึ้นลงของตลาดก็มีผลต่อการเลือกตั้ง
รายงานที่เกิดขึ้นอาจไม่ตรงกับบางสำนัก เทียบโพลล่าสุดของ แกลลอป แล้วพบว่าความนิยมในตัวทรัมป์ลดลงกว่า40% ถ้าวัดกันตัวต่อตัวแล้วกับฝ่ายตรงข้ามแล้ว ทรัมป์จะกลายเป็นผู้แพ้ในสนามเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม รายงานที่ออมาจะช่วยสร้างมาตรฐานให้ทรัมป์ว่าเขาควรจะทำอย่างไรเมื่อเวลาเลือกตั้งมาถึง
มีหลายเขตที่จะกลายเป็นกุญแจสำคัญให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ตัวอย่างในรัฐเพนซิวาเนีย ที่ทรัมป์สามารถเอาชนะได้ปี 2016 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 5 ครั้งในการโหวตเลือกประธานาธิบดีตกเป็นของพรรคเดโมแครตทั้งหมด
โดยเฉพาะในบางพื้นที่เช่น Luzerne County ทางตอนเหนือ แม้ทรัมป์จะไม่ชนะในเขตนี้ แต่คะแนนที่ได้รับการสนับสนุนเป็นตัวเลขที่แข็งแกร่ง พื้นที่นี้เป็นของเดโมแครตมาอย่างยาวนาน การเลือกตั้งที่ผ่านมาคนในพื้นที่หันมาสนับสนุนทรัมป์ด้วยสัดส่วน 46.8% ต่อ 51.8%
การทำนายของมูดดี้ส์เรื่องการเลือกตั้งมีมาตั้งแต่ปี 1980 และถูกต้องทุกครั้ง ยกเว้นในปี 2016 ที่คาดการณ์ว่าคลินตันจะชนะในการเลือกตั้งแบบเฉียดฉิว ซึ่งผู้จัดทำการสำรวจมองว่าเป็นรูปแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ที่ทรัมป์ได้รับเสียงสนับสนุน โดยมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งได้มีการปรับแก้ในการคาดการณ์ล่าสุด และยังได้มีการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาเปลึ่ยนแปลงปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว