รายงาน Ease of Doing Business 2017 หรือ “รายงานความยากง่ายในการทำธุรกิจ” ที่จัดทำโดยธนาคารโลก ล่าสุดระบุว่าไทยอยู่อันดับที่ 46 ในการจัดอันดับการทำธุรกิจจากทั้งหมด 190 ประเทศ ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า 3 อันดับ อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งธุรกิจในไทยอาจใช้เวลาและมีความยุ่งยาก
ภาครัฐจึงมีแนวความคิดนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหา โดยสามารถลดจำนวนข้อมูลที่ผู้ประกอบการต้องกรอกไปกว่า 50% ไม่ว่าจะในกลุ่มงานบริการเริ่มต้นธุรกิจ เช่น ขึ้นทะเบียนนายจ้าง ลูกจ้าง และจดทะเบียน VAT งานบริการกลุ่มนี้เหลือแบบฟอร์มที่ต้องเตรียมเพียง 1 ฉบับ จาก 6 ฉบับ เคยใช้เอกสารประกอบการยื่น 20 ฉบับก็ลดน้อยลงเหลือ 18 ฉบับ และที่ลดไปจากเดิมมากคือระยะเวลาจัดตั้งธุรกิจกว่า 27 วันครึ่ง ที่จะลดลงเหลือเพียง 1 วันเท่านั้น เป็นต้น
นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรือ DGA เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า DGA ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) นำร่องบริการ BiZ Portal ศูนย์กลางการให้บริการเพื่อประกอบธุรกิจทางอิเล็กทรอ นิกส์แบบครบวงจร ที่ให้บริการเว็บเดียวจบ ครบทุกเรื่อง โดยเริ่มต้น 10 กลุ่ม ประกอบด้วย ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ร้านค้าปลีก, รีสอร์ตขนาดเล็ก/โรงแรม, ธุรกิจสปา, ธุรกิจสถานพยาบาลสัตว์, ธุรกิจ Co-Working Space, ก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง, ธุรกิจซ่อมและขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ธุรกิจฟิตเนส และ ธุรกิจคาร์แคร์ ครอบคลุมการขอใบอนุญาตกับหน่วยงานภาครัฐ 40 ใบอนุญาต อาทิ ขออนุญาตระบบสาธารณูปโภค ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ขออนุญาตนำเข้าวัตถุดิบควบคุม ขออนุญาตบริการคาราโอเกะ
เป้าหมายปีนี้จะขยายบริการครอบคลุม 25 ธุรกิจ และขยายบริการขอใบอนุญาตหน่วยงานรัฐ 70 ใบอนุญาต ส่วนในเฟสถัดไปปีหน้า จะเชื่อมต่อระบบกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่ออำนวยความสะดวกจดทะเบียนการค้า ขยายประเภทใบอนุญาต พัฒนาการให้ใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ ใบเสร็จ และระบบชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3514 วันที่ 17-19 ตุลาคม 2562