“บิ๊กแดง”ลากไส้ “บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ” บงการ “สงครามลูกผสม”

11 ต.ค. 2562 | 10:29 น.

 “บิ๊กแดง”ลากไส้  “บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ”  บงการ “สงครามลูกผสม”

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2562  ที่ห้องประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก จัดการบรรยายพิเศษ โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในหัวข้อเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” โดยมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้นำองค์กร ผู้นำมวลชนรอบค่าย นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้แทนจุฬาราชมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ อดีตตุลาการศาล รวมทั้งศิลปินดารา อาทิ นก สินจัย เปล่งพานิช นายฉัตรชัย เปล่งพานิช ตลอดจนสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมรับฟังการบรรยาย

ช่วงหนึ่ง พล.อ.อภิรัชต์  ได้เปิดพรีเซ็นเทชั่นประกอบการบรรยาย โดยกล่าวถึงภัยคุกคามรูปแบบใหม่เป็นแบบ Hybrid Warfare (ไฮบริด วอร์แฟร์) หรือสงครามลูกผสม คือ สงครามที่ใช้วิธีการผสมผสานกันของเครื่องมือ ทั้งจากสงครามตามแบบและสงครามไม่ตามแบบ ที่ประกอบด้วย กองกำลังทหารปกติ, กำลังทหารรบพิเศษ, กองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร เช่น มวลชนที่ต่อต้านอำนาจรัฐ, การสนับสนุนจากประชาชนในท้องถิ่น, สงครามข้อมูลข่าวสาร และการโฆษณาชวนเชื่อ, การทูต, การโจมตี ด้านไซเบอร์, สงครามเศรษฐกิจ


    
คำต่อคำ “บิ๊กแดง”

“ไฮบริด วอร์แฟร์” มันเกิดแล้ว ในประเทศไทย  

 “บิ๊กแดง”ลากไส้  “บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ”  บงการ “สงครามลูกผสม”
พล.อ.อภิรัชต์  กล่าวว่า ที่ผมกำลังพูดเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ   มันเป็นทฤษฎี ที่เรียกว่า ไฮบริด วอร์แฟร์  มันไม่ใช่เรื่องถูกอุปโลกน์ขึ้นมา ศึกษาทำเป็นทฤษฎี จากประสบการณ์ที่ประเทศต่างๆล่มสลาย ว่ามันเกิดเหตุอะไรบ้าง ไฮบริด วอร์แฟร์  คือ สงครามลูกผสม คือสงครามที่ใช้การผสมผสานกันของเครื่องมือทั้งสงครามตามแบบและสงครามไม่ตามแบบ  

 

สงครามตามแบบคือ คือการใช้กำลังทหารป้องกันปราบปราม การรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงทั้งในประเทศและร่วมกับมิตรประเทศ หน่วยที่ 2 เป็นหน่วยพิเศษ ใช้ในการต่อต้านการก่อการร้าย และปฎิบัติการบในสงครามการนอกแบบ   

 

“ไฮบริดวอร์แฟร์” มีความสำคัญอย่างไร  เริ่มตั้งแต่กองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร เช่น  กลุ่มก่อการร้าย  การก่ออาชญากรรม   มวลชนที่ต่อต้านอำนาจรัฐ  กลุ่มยาเสพติด  ไอ้ชุดดำ เช่น กลุ่มที่เข้ามาวางระเบิดใน กทม.8จุด และไม่รู้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร   ผมไม่ได้พูดเพื่อท้าทาย แต่ผมเชื่อว่าหลังผมพูดไปแน่นอนทางโซเชียลมีฟีดแบ็คถึงผมแน่  แต่อย่าทำร้ายประเทศ   พวกที่ไม่พอใจ  ผมอยากจะให้ทุกคนได้รู้ทัน ว่า ไฮบริด วอร์แฟร์ มันเกิดขึ้นแล้ว ในประเทศไทย  


นอกจากนั้น มี  “Support of Local unrest” เป็นการสนับสนุนของมวลชนในท้องถิ่น  คำว่าประชาชนในท้องถิ่นก็คือ ประชาชนทั่วไป และทั่วโลก และกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนในท้องถิ่น  ตั้งแต่นักการเมืองระดับชาติ  นักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น  บางคนเป็นเศรษฐี อาจจะบริจาคเงินให้ไปทำกิจกรรม ให้ไปทำหนังสือพิมพ์  ให้ไปทำเว็บไซต์ หรือแม่แต่เป็นแหล่งข่าวให้กับฝ่ายตรงข้าม 

 

ซัด “นักวิชาการซ้ายจัด”
สร้างสัญญลักษณ์ป่วนเมือง 

 “บิ๊กแดง”ลากไส้  “บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ”  บงการ “สงครามลูกผสม”

สงครามข่าวสารข้อมูลและการโฆษณาชวนเชื่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ทั่วโลกทุกคนแต่ในประเทศไทยหนัก หนักมากจริงๆน่าเป็นห่วง การโฆษณาชวนเชื่อ  ที่สำคัญ คือมันยังมีกลุ่มคอมมิวนิสต์ ที่ไม่ได้กลับใจกลับใจ  ยังมีแนวความคิดที่จะล้มล้างระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์ คิดจะทำประเทศไทย ให้กลับมารูปแบบเหมือนคอมมิวนิสต์  คนพวกนี้อายุเท่าไร  อายุประมาณ 70-72 รุ่นนี้ไม่ออกตัวแต่เป็นมาสเตอร์มาย  เป็นนักวิชาการ ถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น แล้วผนึกกำลังร่วมกับพวกอาจารย์ นักวิชาการ ที่ไร้จรรยาบรรณ ท่านเป็นอาจารย์ เป็นนักวิชาการไม่ผิดหรอกครับ  แต่ถ้าท่านสอนตามที่สอนตามบทเรียน ท่านไม่พูดตอกย้ำความคิด ของเด็กนักเรียนในทางที่ผิดๆ พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เด็กก็ต้องเชื่อ  แต่ท่านไม่มีจรรยาบรรณของท่าน

 

มันเป็นการผนวกกันของความคิดที่เรียกว่า การประยุกต์  เป็นการประยุกต์ความคิดระหว่างกลุ่มคอมมิวนิสต์เดิมที่เป็นมาสเตอร์มายอยู่ กับกลุ่มครูอาจารย์ ที่ไปเรียนที่ต่างประเทศกลับมา พวกซ้ายจัด  ให้เรียนในประเทศที่เคยมาล่าอาณานิคมที่ยึดประเทศไทย มีความคิดมาผสมผสานรวมกัน  เพื่อสร้างการโฆษณาชวนเชื่อ แล้วนำแนวความคิดของตัวเองนั้นผ่านโซเชี่ยล ทั้งเฟสบุ๊ค ไอจี ทวิตเตอร์  ไลน์ สิ่งพิมพ์  ออกข่าวลวง เฟสนิวส์   นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น  

 

ทุกวันนี้ ทุกคนมีมือถือกันหมด  ข่าวเฟสนิวส์ทุกวันนี้ หรือข่าวโฆษณาชวนเชื่อทุกวันนี้มันขึ้นมาปอ๊ปอัพเร็วเหลือเกิน  เร็วกว่าเรื่องดีๆ 

 

สงครามข้อมูลข่าวสารการโฆษณาชวนเชื่อไม่ได้มีอยู่เพียงเท่านั้น ยังสร้างสัญญลักษณ์  ดูทั่วโลกแล้วย้อนมาดูประเทศไทย การสร้างสัญญลักษณ์ เช่น เสื้อแดง เสื้อเหลือ เสื้อดำ  เสื้อสีรุ้ง สร้างสัญญลักษณ์ ชู 3 นิ้ว นี่คือการสร้างสัญญลักษณ์เพื่อให้เกิดการจดจำว่าถ้าทำแบบนี้คือพวกเดียวกัน  ผมบอกแล้วนะครับว่าเหตุการณ์ที่ผมพูดไปไม่ใช่เหตุบังเอิญ 
 

 “บิ๊กแดง”ลากไส้  “บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ”  บงการ “สงครามลูกผสม”
 “Diplomacy”เรื่องการพูด เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่สำคัญ  การใช้องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรอิสระต่างๆเพื่อยกระดับเหตุการณ์และความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวเองขึ้นมา   การไปเอาฝรั่งที่ไหนมาก็ไม่รู้ มาร่วมถ่ายรูปหน้าโรงพักบ้าง  ไปร่วมยืนอยู่กับกลุ่มชุมนุมบ้างเพื่อให้เห็นว่านี่มันอินเตอร์ นี่มันเป็นสากล มันรุนแรง ชาวต่างชาติต้องเข้ามา  ภาพต่างๆเหล่านี้อยู่ในวงของไฮบริดวอร์แฟร์

ท่านดูเองก็แล้วกันว่าที่ผมพูดมามันเกิดขึ้นหรือไม่ในเมืองไทย   สิ่งที่หนักไปกว่านั้นคือ ไซเบอร์แอทแทค (Cyber attacks) หรือการโจมตีทางไซเบอร์  เรื่องนี้ก็คือ การใช้ “บิ๊กเดต้าอนาลิติก” ( Big data analytics) ทุกครั้งที่ท่านใช้โทรศัพท์มือถือ  กดไลน์  ซื้อของ ไปเที่ยว ทำอะไรก็ตามที่แสดงพฤติกรรมผ่านมอืถือ ระบบพวกนี้จะถูกรวบรวม เอาไว้ในบิ๊กเดต้า ความคิดเห็นของท่าน คอมเม้นต์  ทั้งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ  ท่านด่าใคร รักใคร ชอบใคร  ทุกอย่างถูกรวบรวมไว้ในบิ๊กเดต้า   ถ้าลงเฟสบุ๊คแล้วมันไปเร็วมาก 

 

“บิ๊กเดต้าอนาลิติก”ถูกทำขึ้นมาเพื่อใช้รวบรวมพฤติกรรม ของลูกค้า แต่มีการเอาไปใช้ผิดๆ เพื่อเอามาหวังผลทางการเมือง เพื่อจะทำให้รู้ว่าเด็กชอบอะไร ผู้ใหญ่วัยนี้ชอบอะไร  


สุดท้ายสงครามเศรษฐกิจ  หรือ Economic warfare  ยกตัวอย่างสงครามการค้าที่เรารู้กันว่าขณะนี้จีนกับสหรัฐอเมริกามีสงครามการค้าเกิดขึ้น ส่งผลต่อทุกประเทศ แต่ก็ยังมีกลุ่มที่ยังแสวงหาประโยชน์ จากภาวะเศรษฐกิจนำมาใช้ทางการเมือง  เช่น นำภาพคนอดยาก  ประเทศไทยมี 60-70 ล้านคน  อย่าเอาประเทศไทยไปเปรียบเทียบกับสิงคโปร์  ไปเปรียบเทียบกับประเทศเล็กๆ ลองเปรียบเทียบกับประเทศใหญ่ๆดูแม้แต่ประเทศมหาอำนาจ  ผมถามว่าประเทศมหาอำนาจไม่มีจนหรืออย่างไร     จึงมีทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9   

 

ปัญหามีไว้แก้  ผมเชื่อว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องหาทางแก้ปัญหาคนจนตามวิธีการต่างๆโดยสุจริตใจ ไม่นำมาเป็นผลประโยชน์เข้าตัว  ทำให้คนรวยทุกคนเป็นเรื่องยาก  แต่ทำให้คนจนเท่ากันหมดเป็นเรื่องง่าย  นี่คือคอนเซ็ปของพรรคคอมมิวนิสต์ 
 

แฉมีนักธุรกิจคาบช้อนเงินช้อนทอง  
สมคบต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน  

 “บิ๊กแดง”ลากไส้  “บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ”  บงการ “สงครามลูกผสม”

ทุกครั้งที่บ้านเมืองเกิดภัยพิบัติ บ้านเมืองเกิดความไม่สงบ จะเป็นสาเหตุจากพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคการเมืองใดก็ตาม ผมพูดรวมๆทั่วโลก ส่วนใหญ่หนีหมด ทิ้งลูกน้องติดคุก ทิ้งลูกน้องสู้คดี ขึ้นศาล  คนที่ไปร่วมชุมนุมก็กลับไปจนเหมือนเดิม นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ผมเอ่ยชื่อนักการเมืองคนหนึ่งได้ ร.ต.อ. เฉลิม  อยู่บำรุง  เพราะรู้จักกันสนิทกันตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ ถามทนว่าตอนหนีไปอยู่ต่างประเทศมันลำบากแค่ไหน ลูกลำบากแค่ไหน กว่าจะกลับประเทศไทยได้  ลำบากแค่ไหน  ขอ “อาเหลิม”ที่เอียชื่อขึ้นมา  เพราะเป็นเรื่องจริง ที่เล่าให้ฟังว้าลำบากขนาดไหนที่ไปอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้สบายเพราะตอนนั้นไม่มีเงิน  ร่วมกับนักเรียนนอกซ้ายจัดดัดจริต ที่ไปเรียนจากประเทศที่เคยล่าอาณานิคม  อบรมสั่งสอนแบบไร้จรรยาบรรณ  ชอบอ้างเลข 2475  เป็นตัวชี้นำ   ชอบอ้างว่าตนเป็นนักประชาธิปไตย  แต่มีวาทกรรมจาบจ้วง หรือ ท่านจะเลือกให้กลุ่มนักการเมืองบางคน มุ่งหาแต่ประโยชน์ส่วนตัวนึกถึงแต่พวกพ้องไม่นึกถึงประโยชย์ของชาติ 

 

 และยังมีนักการเมืองบางคนในพื้นที่ภาคใต้  เคยเกาะแข้งเกาะขานายทหารใหญ่ที่เป็นเพื่อนพ่อผม ตั้งพรรคการเมืองมา 20 ปีก่อน  ตอนนี้เริ่มเป็นใหญ่เป็นโตอีกแล้ว  เอาเรื่องศาสนา เรื่องแบ่งแยกดินแดงมาเป็นเครื่องมือในการหาเสียง หรือจะเชื่อนักการเมืองที่เหมือนผึ้งแตกรัง ลูกพี่ใหญ่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ  หรือสุดท้ายท่านจะเชื่อนักธุรกิจเจ้าของโรงงาน ที่เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง  ชีวิตไม่เคยลำบาก  เหมือนพวกฮ่องเต้ซินโดม เคยชุมนุมร่วมกับคนเผาบ้านเผาเมือง สมคบคิดกับชาวต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน  เจาะพฤติกรรมล้างสมองคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นฐานให้กับตนเข้าสู่การเมือง มีพฤติกรรมล้มล้างชาติ สถาบัน  

สามกลุ่มที่ผมพูดมาไม่ผิดหรอกครับ  ถ้าท่านจะมาเป็นผู้นำประเทศ ท่านเป็นได้ แล้วแต่ไม่ใช่ประเทศไทยไม่เคยมี   สามกลุ่มนี้มาเป็นผู้นำประเทศ แต่ขอว่าถ้าพวกนั้นไม่ส่อพฤติกรรมล้มล้างสถาบัน ไม่ส่อพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง ไม่ส่อพฤติกรรมหาประโยชน์ส่วนตน 

 

สุดท้ายเราอาจจะเห็นต่างกัน อาจจะรักใครชอบใคร ในสิ่งที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เราเห็นต่างกันนั้น ตอ้งไม่นำไปสู่การแตกแยกของคนในชาติ ต้องไม่นำไปสู่การแบ่งแยกดินแดง ผมและเพื่อนทหาร ตำรวจ  จะยื่นอยู่เคียงข้างประชาชน  และขอให้ประชาชน นิสิตนักศึกษา  จำไว้ว่า  ทหาร  ตำรวจ  ข้าราชการ ก็คือลูกหลานของพวกท่าน


 “บิ๊กแดง”ลากไส้  “บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ”  บงการ “สงครามลูกผสม”