“ปชป.”ชูเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ

07 ต.ค. 2562 | 04:58 น.

ทีมเศรษฐกิจ ปชป. ชูเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษสร้างความปลอดภัย ช่วยยกระดับเศรษฐกิจพึ่งพาตนเองให้กับเกษตรกร

“ปชป.”ชูเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ

วันที่ 7 ตุลาคม 2562 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวหนุนเกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์ ยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร ไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี ช่วยลดต้นทุนการผลิตและส่งผลดีต่อสุขภาพของเกษตรกร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่หันมาสนใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น และช่วยยกระดับเศรษฐกิจพึ่งพาตนเองให้กับเกษตรกร

 

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่าทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนให้เกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคและพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด ปัจจัยที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมคือในทีมเศรษฐกิจทันสมัยนอกจากมีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรอินทรีย์คือนายนาวี นาควัชระ ร่วมอยู่ในทีมด้วยเช่นกัน

 

“จากประเด็นเรื่องสารเคมีอันตรายที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงกันเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ที่พรรคประชาธิปัตย์โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีจุดยืนที่ชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้น ในการไม่สนับสนุนสารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิด คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส จึงสอดคล้องกับแนวทางของทีมเรื่องการสนับสนุนให้เกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่อง การทำเกษตรอินทรีย์มีมาตรฐานสูงกว่าการทำเกษตรแบบปลอดภัยเพราะไม่ใช้สารเคมีเลยในทุกกระบวนการของการผลิต

 

 

ปริญญ์ พานิชภักดิ์

 

ล่าสุดผมได้พาคณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท COOP (โค-อ๊อพ สหกรณ์รวม) จากยุโรปนำโดยคุณเกอร์ฮาร์ด เซอร์ลูทเตอร์ (Gerhard Zurlutter) ที่สนับสนุนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์และมีกระบวนการทําให้เกิดอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในระยะกลาง-ยาว เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และทีมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง โดยคุณเกอร์ฮาร์ด ได้แสดงความสนใจที่จะร่วมมือกับประเทศไทยในการรับซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์จากเรา ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับพี่น้องเกษตรกรและเป็นการขยายตลาดไปยังต่างประเทศอีกด้วย” นายปริญญ์กล่าว

 

นายปริญญ์ยังกล่าวด้วยว่าการทำเกษตรอินทรีย์ หากพี่น้องเกษตรกรได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธีทั้งการผลิตที่มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค่า และการพัฒนาช่องทางการตลาด เมื่อเกษตรกรผลิตได้และขายได้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยยกระดับเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเองให้กับพี่น้องเกษตรกรเพื่อช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากได้อีกด้วย

 

ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังเผยต่อด้วยว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษร่วมกับอดีตผู้สมัคร ส.ส พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดศรีสะเกษ รวมถึงอดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสานของพรรค เพื่อพบปะกับกลุ่ม Young Smart Farmer ที่ทำเรื่องเกษตรอินทรีย์เพื่อนำมาวางแผนและหาแนวทางในการช่วยเหลือภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจทันสมัย (New Economy)

 

 “ทีมเศรษฐกิจ นำโดยนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ หัวหน้าทีม นายนาวี นาควัชระ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรอินทรีย์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เนื่องจากเป็น 1 ในพื้นที่นำร่องในการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการ ศรีสะเกษเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ มีเกษตรกรที่หันมาทำเกษตรอินทรีย์เป็นจำนวนมาก การลงพื้นที่ของทีมเพื่อช่วยผลักดันให้ศรีสะเกษเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการที่ ต้องมีการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานตามที่ผู้บริโภคต้องการแล้ว ยังต้องช่วยเรื่องช่องทางการจำหน่าย โดยทีมเศรษฐกิจของพรรคมีแนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทั้งสองส่วนคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับสำหรับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงการหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ นอกเหนือจากที่มีในปัจจุบัน เช่น โรงพยาบาล หรือกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ โดยจะช่วยเจรจาหาช่องทางการค้าใหม่ รวมถึงช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นการขยายฐานการตลาดออกไปให้กว้างขึ้น และมีความตั้งใจจะใช้ศรีสะเกษโมเดล ขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ ด้วย”