สกัด‘อีวี’จีนนําเข้าภาษี0% รัฐลุยตั้งกองทุนเก็บค่าต๋ง

รัฐบาลไทยเร่งตั้งกองทุนรถยนต์ไฟฟ้า เก็บเงิน “อีวี” นำเข้า โดยเฉพาะจีนที่ใช้สิทธิ FTA ไม่เสียภาษีนำเข้า หวังปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ “เอ็มจี” เชื่อเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี หวั่นการแข่งขันไม่เป็นธรรม

ตามที่กระทรวงการคลัง มอบนโยบายให้กรมสรรพสามิต ศึกษาการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และการบริหารจัดการแบตเตอรี่หลังจากหมดอายุเพราะถือเป็นสินค้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยหลักการจะเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนจากกลุ่มรถนำเข้า (อีวี, ไฮบริด) แต่ไม่เกี่ยวกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศที่ได้รับอนุมัติแผนส่งเสริม การลงทุนจากบีโอไอ ที่รวมค่าบริหารจัดการแบตเตอรี่อยู่ในแพ็กเกจแล้ว

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กองทุนยังเป็นแนว คิดที่กรมจะไปศึกษาว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ เพราะต้องหารือร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)การดูแลแบตเตอรี่หลังหมดอายุนั้น ยืนยันว่าเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ แต่ด้านแบตเตอรี่ต้องดูแลหลังการใช้งาน หากหมดอายุแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

แหล่งข่าวบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายใหญ่ เปิดเผยว่า นโยบายนี้ชัดเจนว่าเป็นการกีดกัน “อีวี” นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนที่ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนกันไว้ ซึ่งรถพลังงานไฟฟ้า 100% ส่งออกมาขายในไทยโดยไม่เสียภาษีนำเข้า มีผลโดยตรงกับต้นทุนและทำราคาได้ถูกลง ซึ่งสวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการลงทุน โดยชวนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาตั้งฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ที่ทุกรายต้องใช้เงินมหาศาล

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า รายละเอียดยังไม่มีอะไรออกมา แต่คิดว่ากองทุนนี้น่าจะออกมาเพื่อควบคุมพวกรถยนต์ไฟฟ้านำเข้า เพราะในส่วนของผู้ผลิตที่ยื่นแผนการลงทุนกับบีโอไอนั้นมีเงื่อนไขเรื่องการจัดการแบตเตอรี่​อยู่แล้ว และคงต้องรอให้กรมสรรพสามิตเรียกคุยประเด็นนี้อีกครั้ง

“แนวทางการตั้งกองทุนนี้คงคล้ายๆกับการเก็บเงินเข้ากองทุนนํ้ามัน ดังนั้นถ้าเกิดขึ้นจริงต้องเป็นหน่วยงานหรือมีคณะทำงานที่ใหญ่มาก”นายธีร์ กล่าว

ทั้งนี้ มีบริษัทรถยนต์หลายรายที่นำเข้าอีวีจากจีนมาทำตลาดในเมืองไทย เช่น ชาริชโฮลดิ้ง (ขาย ลัมโบร์กินี ดูคาติ) ร่วมกับ เอเจ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า นำเข้า “บีวายดี อี6” ราคา 1.89 ล้านบาท มาเป็นแท็กซี่วีไอพี

“เอ็มจี”ในเครือเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ (SAIC) นำเข้า “แซดเอส อีวี” ราคา 1.19 ล้านบาท กวาดยอดจองเกิน 1,000 คัน และเพิ่งปรับเป้าการขายใหม่เป็น 2,000 คันในปีนี้ ส่วน “นิสสัน ลีฟ” นำเข้ามาจากญี่ปุ่นราคา 1.99 ล้านบาท เริ่มส่งมอบเดือนเมษายนจนถึงสิงหาคม 2562 ทำได้รวม 85 คัน

ล่าสุดค่ายรถจากจีน “สกาย เวลล์” ลงทุน 3,000 ล้านบาท ทำตลาดด้วยการนำเข้ารถ 4 รุ่น ได้แก่ เดโชะ รถตู้รองรับผู้โดยสาร 5-7 ที่นั่ง ราคา 7.89 แสนบาท และรุ่นโซได รถตู้รองรับผู้โดยสาร 7-11 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท รุ่นแพนได รถบัสรองรับได้ 21 ที่นั่ง เริ่มต้น 2.5 ล้านบาท และ โยชิ รถบรรทุก 6 ล้อ มาพร้อมตู้คาร์โก เริ่มต้น 1.4 ล้านบาท

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดี-วัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ต้องรอดูกองทุนนี้จะมีรายละเอียดอย่างไร และมันจะกลายเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี หรือเปล่า เป็นการบิดเบือนตลาดหรือไม่ และอาจจะทำให้การแข่งขันไม่สมบูรณ์

สำหรับภาษีนำเข้า“อีวี” จากจีนเป็น 0% ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนส่วนการนำเข้ามาจากญี่ปุ่นโดน 20% เกาหลีใต้ 40% และยุโรป 80%

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3509 วันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม 2562