ย้อนไทม์ไลน์คดีข้าวจีทูจี

06 ก.ย. 2562 | 01:48 น.

ย้อนไทม์ไลน์คดีข้าวจีทูจี

บุญทรง  เตริยาภิรมย์

ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ทางการเมืองอีกวันหนึ่ง ที่วันนี้ ( 6 ก.ย.2562) เวลา 11.00 น.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดนายบุญทรง  เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพวกที่เป็นอดีตรัฐมนตรี อดีตนักการเมือง อดีตข้าราชการระดับสูงกรมการค้าต่างประเทศ รวมถึงเอกชนผู้ค้าข้าวที่ตกเป็นจำเลยรวม 15 รายที่ถูกตัดสินจำคุกไปแล้วก่อนหน้านี้ ให้มาฟังการอ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์

สืบเนื่องจากจากอัยการโจทย์ และจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ตามกฎหมายใหม่(ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือกผู้พิพากษาฎีกาและผู้พิพากษาอาวุโสในชั้นฎีกา ที่เคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหัวหน้าคณะในศาลฎีกาจำนวน 9 คนที่ไม่เคยนั่งพิจารณาคดีจีทูจีมาก่อน มาเป็นองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์โดยให้ถือว่าคําวินิจฉัยนั้นเป็นคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ซึ่งองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์จะเลือกเป็นรายคดี) ซึ่งต้องลุ้นวันนี้ศาลฯจะมีคำพิพากษาอย่างไร

15 มีนาคม 2558 :

อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก ฐานกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ หรือฮั้วประมูล พ.ศ. 2542 เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) กรณีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งการยื่นฟ้องของอัยการสูงสุดได้ขอให้ศาลสั่งปรับจำเลยทั้งหมดเป็นเงินกว่า 35,000 ล้านบาท ซึ่งค่าปรับนี้เป็นการคิดคำนวณจากมูลค่าครึ่งหนึ่งตามสัญญาระบายข้าว 50,000 ตัน ที่พบว่ามีการกระทำผิดสัญญารวม 4 ใน 8 ฉบับด้วย

ย้อนไทม์ไลน์คดีข้าวจีทูจี ย้อนไทม์ไลน์คดีข้าวจีทูจี

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ลงมติถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ทำให้ทั้ง 3 คน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

25 สิงหาคม 2560 :

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ใช้เกณฑ์ราคาขายแบบหนังคลังสินค้าซึ่งผิดไปจากแนวทางปฏิบัติในกรณีการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ จากนั้นเห็นชอบให้ขายข้าวแก่บริษัทกว่างตง จำกัด เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีน 2 สัญญา ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย 11,011 ล้านบาท

ต่อมานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ได้รับแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และได้รับแต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวแทนนายภูมิ  สาระผล และ เห็นชอบสัญญาซื้อขายข้าวกับบริษัท กว่างตง  จำกัด 1 ฉบับ ทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย 5,694 ล้านบาท และเห็นชอบให้ทำสัญญากับบริษัท ไห่หนาน จำกัด 1 ฉบับ ทำให้ประเทศชาติเสียหาย 162 ล้านบาท ภายหลังการซื้อขายทั้ง 4 ฉบับปรากฏว่า มีการชำระค่าข้าวด้วยแคชเชียร์เช็คภายในประเทศและรับมอบข้าวไปขายต่อภายในประเทศ โดยไม่มีการส่งออกข้าวจริง

กระบวนการดังกล่าวกระทำโดยนายภูมิ สาระผล, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์, นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (เสี่ยเปี๋ยง) เครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และพวก ร่วมกันนำบริษัทกว่างตงและบริษัทไห่หนานมาขอซื้อข้าว โดยแอบอ้างว่าบริษัทดังกล่าวได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีนมาทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด หลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151

อย่างไรก็ดีเมื่อราคาข้าวในท้องตลาดลดลง รัฐวิสาหกิจผู้ซื้อข้าวก็จะไม่ยอมมารับข้าวตามสัญญา แต่มาขอทำสัญญาฉบับใหม่ซื้อข้าวชนิดเดียวกันในราคาต่ำลงกว่าสัญญาเดิม โดย นายบุญทรง ไม่เปิดประมูลขายข้าวภายในประเทศ ทำให้ข้าวในท้องตลาดขาดแคลน ผู้ประกอบการค้าข้าวไม่สามารถหาซื้อข้าวในท้องตลาดได้ จำต้องไปหาซื้อข้าวจากกลุ่มบริษัทของนายอภิชาต(เสี่ยเปี๋ยง) ส่วนนี้ศาลเห็นว่า เป็นการซื้อโดยไม่ทราบว่า เป็นข้าวที่มาจากสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง

 

ทั้งนี้ศาลได้พิพากษาจำคุกนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ 42 ปี, นายภูมิ สาระผล 36 ปี, นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร 48 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือจำคุกลดหลั่นลงตามพฤติการณ์แห่งความผิด และให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด, อภิชาติ จันทร์สกุลพร และนิมล รักดี ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวงการคลัง 16,912 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่รับมอบข้าวตามสัญญาแต่ละฉบับ จำเลยอื่นให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามส่วนเช่นเดียวกัน ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 19 และจำเลยที่  22 ถึง 28(ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงสีและผู้บริหารโรงสี เนื่องจากหลักฐานที่ไต่สวนมายังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับการกระทำ)

ขณะที่คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ได้นำมาสู่คำพิพากษา จำคุก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา เพราะ ไม่ระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหาย เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1  ซึ่งเวลานี้นางสาวยิ่งลักษณ์ยังหนีลอยนวล ปล่อยให้นายบุญทรงและพวกต้องนอนทุกข์ระทมอยู่ในคุกมากว่า 2 ปีแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

●  “บุญทรง”ถึงกับช็อก! หลังศาลเพิ่มโทษจำคุกยาว48ปี

● ฟัน“เจียเม้ง”ยักษ์ใหญ่ค้าข้าว

● ด่วน! ศาลสั่งจำคุก "บุญทรง"เพิ่ม6ปี รวม48ปีคดีจีทูจีข้าว

● เซ่นคดีข้าวจีทูจี ศาลสั่งคุก! ‘บุญทรง’ 42 ปี ‘ภูมิ’ 36 ปี

● ผงะ!! ‘คดีจำนำข้าว’ ยกฟ้องเพียบ

 

ย้อนไทม์ไลน์คดีข้าวจีทูจี