Mr.โทรโข่ง แค่พูดเก่งเป็นต่อยหอยคงไม่พอ
โฆษกรัฐบาล ชื่อเรียกเป็นทางการคือ “โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” ตำแหน่งนี้ยังไม่ค่อยได้ยินเท่าไรว่าใครจะได้มาเป็นเจ้าแห่งตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
หากถามถึงความสำคัญของโฆษกฯ บอกได้เลยว่าเป็นทัพหน้าของรัฐบาล ต้องปะทะ ชน บู๊แหลก โต้ตอบแทนนายกรัฐมนตรี และครม.ได้ทุกรูปแบบ ซึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” เปลี่ยนโฆษกรัฐบาล มา 3 คน
เริ่มจากคนแรก ภาคต่อเนื่องจาก คสช. ที่ดึง ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ ซึ่งผ่านสังเวียนงานโฆษกมาโชกโชน รู้ภารกิจทหารและชำนาญงานพูดแบบพลเรือน มานั่งคุมตึกนารีได้ช่วงเวลาประเดี๋ยวหนึ่งเท่านั้น จากนั้นจึงขยับ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ขึ้นจากรองโฆษกฯ ลูกน้องคู่ใจของบิ๊กตู่ ที่รู้จังหวะการทำงานแบบทหารคุยกัน มา รับไม้ต่อ
โฆษกไก่อู เคยเล่าให้ฟังตอนเป็นโฆษกรัฐบาล ต้องพร้อมตลอดเวลาในการรับบัญชาของนายกฯลุงตู่ ถ้าเมื่อไหร่ส่งข้อความใน Line หรือ โทร.มาสั่ง ก็ต้องรีบปฏิบัติทันที ห้ามมีข้อแม้ เคยแม้กระทั่งว่าต้องรีบบึ่งเข้ามาห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาล ตอนตี 3 กลับมาหาเอกสารบางอย่าง เพื่อจะได้ตอบคำถามนายได้
ฉะนั้น ก็พอจะสรุปได้ว่า นายกฯลุงตู่ ประเภทแบบสั่งปุ๊บต้องได้ปั๊บ แม้ว่าคำสั่งนั้นจะเขียนด้วยลายมือที่อ่านออกยากเท่าไรก็ตาม
จากนั้น เสธ.ไก่อู ถูกโยกข้ามห้วยไปเป็นอธิบดีกรมประชา สัมพันธ์ คุมงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลแบบมีงบประมาณในมือ แต่ก็ไม่พ้นสังกัดภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีอยู่ดี แล้วดึง บี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เข้ามารับภารกิจในช่วงท้ายรัฐบาล ด้วยการควบเก้าอี้รองเลขาฯนายกฯ อีกตำแหน่ง เป็นการเปลี่ยนโฉมทีมโฆษกฝ่ายทหารเป็นฝ่ายพลเรือนเต็มตัวในยุค คสช.
พุทธพงษ์ ก็ไม่ได้ทำให้ลุงตู่ผิดหวัง เพราะเป็นผู้เปิดโลกออนไลน์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากนายกฯ ที่ปฏิเสธการมีพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ของตัวเอง เข้ามามีตัวตนในแฟนเพจเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ จนได้ ไม่ว่าไปทำงานที่ไหน ภารกิจอะไร ทั้งห้องรับแขก ห้องนอน ที่บ้าน หรือไปงานต่างประเทศ ก็ยังมีภาพของพล.อ.ประยุทธ์ ในอิริยาบถต่างๆ มาโพสต์ให้ชมทุกวัน
แต่ด้วยภารกิจต้องลุยสนามเลือกตั้ง เป็นแม่ทัพ กทม. ของ พรรคพลังประชารัฐ พุทธพงษ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งมาลุยงานเลือกตั้งเต็มตัว ทิ้งร้างเก้าอี้โฆษกรัฐบาลว่างเว้นมานานหลายเดือน มีเพียง พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกฯ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาลไปพลางก่อน ทำหน้าที่ในการตอบโต้และชี้แจงแทนไปแบบไม่ใช่งานถนัดเท่าไรนัก เพราะอันที่จริงภาพและความถนัดของ พล.ท.วีรชน ถนัดงานด้านต่างประเทศซะมากกว่า
ดังนั้นน่าสนใจ เก้าอี้โฆษกรัฐบาลคนใหม่ ที่ร้างมานาน ใครหนอ? จะเข้ามานั่ง ภายใต้ความไว้เนื้อเชื่อใจ รู้ใจ รู้จังหวะกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สไตล์การทำงานแบบสั่งแล้วต้องได้ แต่แค่นั้นยังไม่พอ เพราะหน้าที่หนึ่งแม้โฆษกรัฐบาลจะดูมีพาวเวอร์มากมาย แต่สุดท้ายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของรองนายกฯ ที่กำกับดูแลสำนักนายกฯ รัฐมนตรีประจำสำนักฯ เลขาธิการนายกฯ และต้องทำงานร่วมกับรองโฆษกจากพรรคร่วมรัฐบาล ที่แต่ละคนล้วนมีภารกิจเพื่อนายและพรรคการเมืองของตัวเองเป็นสำคัญ ดังที่เคยมีปรากฏการณ์มาแล้ว ที่รองโฆษกรัฐบาล แถลงข่าวซัดพรรคแกนนำรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
จึงน่าสนใจว่า เจ้าแห่งตึกนารีสโมสรคนต่อไป คงไม่ใช่เป็นใครก็ได้ที่แค่พูดเป็น พูดเก่ง พูดเป็นต่อยหอยไปวันๆ แต่มันมีโจทย์ใหญ่ คือ คุณจะรู้ใจลุงตู่หรือเปล่า อันนี้สิคือพอยต์ใหญ่ที่สุด
อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3486 ระหว่างวันที่ 11 - 13 กรกฎาคม 2562
