กระแสเฟดลดดอกเบี้ย ปลุกทองคำฟื้น

คอลัมน์ครบเครื่องเรื่องทองกับ YLG

พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์      ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

ความเป็นไปได้ของการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับ “ลด” อัตราดอกเบี้ยในปีนี้ถูกปลุกขึ้น หลังจากการเปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2019 ที่ระดับ 3.1% ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.0% และถือว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีการขยายตัวครบรอบ 10 ปีในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ยาวนานเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดี หากพิจารณาถึงเนื้อในของตัวเลข GDP ก็จะพบว่าทางการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวสู่ระดับ 1.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ส่วนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจลดลง 1.0% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2016 ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหัฐฯในไตรมาส 1 ของปียังอยู่ในระดับตํ่า

ตอกยํ้าการคาดการณ์ดังกล่าวด้วยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคมดิ่งลงเกินคาด ด้านตัวเลขในตลาดแรงงานอย่างการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเพียง 27,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับตํ่าสุดในรอบกว่า 9 ปี ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 75,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม โดยตํ่ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง และตํ่ากว่าระดับ 224,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 เดือนที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 100,000 ตำแหน่ง

ทางฟากของเจ้าหน้าที่เฟดก็แสดงความเห็นในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงินเช่นกัน ทั้งนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาเซนต์ หลุยส์ ที่กล่าวว่า อาจจะจำเป็นต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นที่เกิดจากความตึงเครียดทางการค้า รวมทั้งเงินเฟ้อที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุสอดคล้องกันว่า เฟดจะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) กลับมาใช้อีกครั้ง

สิ่งเหล่านี้กระตุ้นให้นักลงทุนทั่วโลกคาดการณ์มากขึ้นว่า “เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด” สะท้อนจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ที่วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาส 85.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและคาดว่ามีโอกาส 62.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน อีกทั้งยังคาดว่ามีโอกาส 54.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม สถาน การณ์การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันดอลลาร์สหรัฐฯให้อ่อนค่าลงอย่างชัดเจน จนเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทำระดับสูงสุดของปีนี้ครั้งใหม่บริเวณ 1,348 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์

อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังถูกสกัดช่วงบวกจากการปรับตัวสูงขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงจากข่าวแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดเช่นกัน ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 มิถุนายน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ YLG แนะนำให้นักลงทุนจับตา โดยเฉพาะในการประชุมเฟดเดือนมิถุนายนนี้จะมีการเปิดเผย Economic Projections และคาดการณ์ Dot Plot ฉบับใหม่จากเจ้าหน้าที่เฟด หากบ่งชี้ถึงการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้มีเสถียรภาพต่อเนื่องในปีนี้ได้

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,478  วันที่ 13-15 มิถุนายน 2562