"จุรินทร์"ย้ำ 2 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล"พปชร."ต้องแก้รธน.-นโยบายประกันรายได้เกษตรกรในนโยบายรัฐบาล ระบุ รอพปชร.เคลียร์ปัญหาให้จบ
วันที่ 31 พ.ค. 62 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ต้องเริ่มต้นที่พรรคพลังประชารัฐก่อน ไม่ได้นับหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยความคืบหน้าล่าสุดทราบตรงกันว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ มาเชิญพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาล แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเลื่อนการประชุมออกไปเป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐต้องใช้เวลาในการทำให้ตัวเองเป็นหนึ่งเดียวเสียก่อน
“เราจึงต้องให้เวลาเขา และเคารพการตัดสินใจของเขา โดยไม่ได้กำหนดว่าเขาจะต้องให้คำตอบกับเราเมื่อไหร่ แต่สำหรับการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี”
เมื่อถามว่าการที่นายชวนเป็นประธานสภาฯ แล้วจะผูกมัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า การที่พรรคไหนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจะผู้พิจารณา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ประชุมกันว่าจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะคงต้องนับหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐก่อนว่ามีความเห็นอย่างไร แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชารัฐระบุว่าจะลงมติเลือกนายกฯ ก่อนจึงจะจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีและนโยบาย นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐต้องเป็นผู้ตัดสินใจ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคขนาดกลางที่มีส.ส. 53 เสียง ก็ต้องเข้าใจสถานภาพของตัวเองว่าอยู่ในฐานะไหน และเรายังไม่เคยคุยกันว่าจะต้องลงมติเลือกนายกฯก่อนจึงจะจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี เขาแค่มาเชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล ซึ่งเดิม เราคิดว่าทุกอย่างจะยุติตามที่ได้พูดคุยกันแล้ว แต่ก็เกิดปัญหาความไม่ลงตัวของพรรคพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการจัดตั้งรัฐบาลควรเสร็จสิ้นก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะมีมติแยกระหว่างการลงมติเลือกนายกฯ กับการร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ในการเลือกนายกฯอย่างไร และพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในสถานะใด เพราะขณะนี้เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ อย่างไร
เมื่อถามว่าถ้าข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับการตอบรับ การร่วมรัฐบาลอาจไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่ได้พูดคุยเบื้องต้นถึงเงื่อนไขการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าจะตัดสินใจร่วมงานกับพลังประชารัฐ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องพาประเทศเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นได้
ถ้าไม่หยิบประเด็นนี้ขึ้นมา จะทำให้โอกาสที่ประเทศจะเดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยริบหรี่ลง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ทำยากมาก เพราะต้องใช้เสียงข้างมากเกินกว่ากึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งจะต้องมีเสียงส.ส.ฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และเสียงจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ว.ทั้งหมดด้วย จึงเกือบจะปิดประตูในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยวิธีไม่ปกติ ซึ่งเราไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้น จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราต้องยื่นเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าถ้าร่วมรัฐบาล รัฐบาลต้องเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามรัฐบาลหรือกำหนดเป็นนโยบาย เพราะจะมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า
นอกจากนี้มีการเสนอว่าต้องนำนโยบายการประกันรายได้เกษตรกรที่เราใช้ในการหาเสียงไว้กับประชาชน ไปบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำว่าจะตอบรับข้อเสนอนี้หรือไม่ ซึ่งเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อนี้สำคัญต่อการตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่