ทุ่ม2หมื่นล.ป้อนน้ำอีอีซี แผน 10 ปี 20 โครงการเพิ่ม 354 ล้านลูกบาศก์เมตร
กรมชลประทาน เปิดแผนบริหารจัดการนํ้าในอีอีซีช่วง 10 ปีลงทุนกว่า 2หมื่นล้านบาทใน 20 โครงการ หวังจัดหานํ้าได้เพิ่ม 354 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ยันปีนี้ไม่มีปัญหาขาดแคลนนํ้า แม้นํ้าใน 5 อ่างหลักอยู่ในระดับตํ่า
แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยรวมจะมีปริมาณฝนตกในปีนี้ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ย 5-10% โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ที่เริ่มเป็นห่วงกันว่าจะมีปริมาณนํ้าใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพียงพอหรือไม่ หลังจากสถานการณ์นํ้าดิบป้อนให้กับภาคอุตสาหกรรม จากอ่างเก็บนํ้าหลัก ของบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรนํ้าภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ปัจจุบันมีปริมาณนํ้าใช้งานได้ตํ่ากว่าปีที่ผ่านมา โดยมีปริมาณนํ้าทั้ง 5 อ่างเก็บนํ้าหลักราว 200 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น จากความต้องการใช้ราว 1.7 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 กรมชลประทาน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กรมและภาคเอกชนได้เฝ้าระวังปริมาณนํ้าที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนทยอยสูบนํ้ามาเก็บไว้ในอ่างเก็บนํ้าประมาณ 9-12 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อเดือน จาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การสูบนํ้าจากอ่างเก็บนํ้าประแสร์ การสูบนํ้าแม่นํ้าบางปะกง และแหล่งเอกชน รวมทั้ง สูบผันนํ้าจากคลองพระองค์ไชยานุชิต มาสำรองไว้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ดังนั้น เชื่อว่าในปีนี้จะไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนนํ้าอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินความต้องการใช้นํ้าในพื้นที่อีอีซีทั้งอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรมเมื่อสิ้นปี 2579 จะอยู่ราว 1 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมแผนการลงทุนสำหรับการจัดหาแหล่งนํ้าในอนาคตไว้ใช้ให้เพียงพอ โดยเฉพาะการเพิ่มปริมาณนํ้าใช้เพื่ออุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม รวมทั้งส่งให้ภาคการเกษตรและรักษาระบบนิเวศที่จะต้องเพิ่มปริมาณนํ้าใช้งานให้ได้เกือบ 500 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2563
ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมาทางกรมชลประทานได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อมาดำเนินงาน 6 ด้าน 20 โครงการ ซึ่งเป็นแผนบริหารจัดการนํ้าในพื้นที่อีอีซี ระยะ 10 ปี โดยขณะนี้การดำเนินงานมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ประกอบด้วย 1.การเพิ่มศักยภาพหรือเพิ่มความจุของอ่างเก็บนํ้าให้มากขึ้น เช่น ไปเพิ่มทางระบายนํ้าล้นให้สูงขึ้นเพื่อให้เก็บนํ้าได้สูงขึ้น
2.การสร้างอ่างเก็บนํ้าใหม่ เช่น การพัฒนาลุ่มนํ้าคลองวังโตนด โครงการก่อสร้างอ่างเก็บนํ้าคลองหางแมว ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรีได้เร่งสร้างอ่างเก็บนํ้า 4 แห่งคือ 1.อ่างเก็บนํ้าคลองประแกด 2.อ่างเก็บนํ้าคลองหางแมว 3.อ่างเก็บนํ้าคลองพะวาใหญ่ และ 4.อ่างเก็บนํ้าคลองวังโตนด มีการสร้างท่อผันนํ้า ไปยังอ่างเก็บนํ้าประแสร์ จังหวัดระยอง และบางพระ จังหวัดชลบุรี
3.การสูบกลับนํ้ามาเก็บไว้ในอ่าง เช่น ปรับปรุงระบบสูบกลับอ่างหนองปลาไหล 4.การเชื่อมโยงระบบผันนํ้าจากลุ่มนํ้าอื่นๆมาเก็บไว้ในอ่าง เช่น โครงการผันนํ้าจากพื้นที่ลุ่มนํ้าเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตามแนวพระราชดำริ มาเก็บไว้ที่อ่างเก็บนํ้าบางพระ จ.ชลบุรี 5.การวางระบบเครือข่ายป้องกันอุทกภัยโดยใช้โปรแกรมที่มีการพัฒนาใหม่ ของศูนย์นํ้าอัจฉริยะแห่งแรกในส่วนภูมิภาคที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ และ 6.การร่วมมือกับภาคเอกชนการประปาจัดหานํ้าสำรองโดยขุดสระใช้เอง
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3474 วันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2562
