ลั่น“ยึดกติกา-ส่งมิลค์บอร์ดชี้ขาด” แก้นมโรงเรียน

โควตา “นมโรงเรียน 1.4 หมื่นล้านยังวุ่น แบ่งเค้กไม่ลงตัว  “อธิบดีกรมปศุสัตว์” ยันหลักการชัด ผู้ประกอบการที่ใช้สิทธิแลกนมผงแล้วไม่สามารถนำสิทธิใช้ซ้ำซ้อน ส่วนกรณีเปิดช่องว่างข้ามภาคได้ สำรองภาคนั้นน้ำนมดิบขาด แต่ถ้าจัดสรรแล้วแต่ละภาคเต็มก็หมดสิทธ์ ยันเสียงผู้ว่าฯใหญ่สุดโอนอำนาจเบ็ดเสร็จตัดสินได้ทันที ด้านสมาคมอุตสาหกรรมฯ เสนอ “มิลค์บอร์ด”ชี้ขาด

ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายตามแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ทำให้มีน้ำนมดิบเข้ามายื่นจำนวนมากกว่า 2,000 ตัน/วัน ใน 5 ภาคนั้น จะมีแนวทางอย่างไรนั้น  (ปริมาณน้ำนมดิบที่ใช้ในโครงการนมโรงเรียน 1,078.09 ตัน/วัน จำนวนเด็กนักเรียน 7.4 ล้านคน/วัน)

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์  ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เผยกับ” ฐานเศรษฐกิจ”  ว่าหลักการง่ายก็คือ ผู้ที่เข้าโครงการนมโรงเรียนสมัครได้ ทุกภาค ซึ่งทางกรมเปิดโอกาส ไม่ได้ปิดกั้น เมื่อหลังจากผ่านขั้นตอนการรับสมัครแล้ว มาถึงคุณสมบัติที่จะเข้าหลักเกณฑ์ก็คือ 1.เกษตรกรหรือศูนย์รวบรวมนมหรือผู้ประกอบการจะต้องเป็นผู้ที่ไม่ใช้สิทธิไปรับรองนมผง 2.ให้สิทธิกับผู้ที่สมัครอยู่ในภาคนั้นก่อน ยกเว้นภาคที่น้ำนมดิบขาดแคลน ถึงจะให้ผู้สมัครข้ามภาครายอื่นเข้าไปเติม ดังนั้นเมื่อแต่ละภาคเต็ม ส่วนที่สมัครข้ามภาคถูกตัดออกไปโดยปริยาย เนื่องจากจะดูเรื่องโลจิกติส์สำคัญที่สุด

 3.การกระจายอำนาจ จะมอบอำนาจการตัดสินใจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ปฏิบัติ ส่วนทางกรมจะเป็นแค่อำนวยการเท่านั้น  หลักการนี่ยืนยันชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นผู้รับนโยบายสามารถปฎิบัติได้ทันที ทำแบบตรงไปตรงมา ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องลืมว่าในอดีตเคยได้รับการจัดแบ่งโควตาเท่าไร ครั้งนี้ทุกคนต้องเริ่มต้นใหม่ หากไม่เริ่มใหม่จะขัดหลักการเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีเกษตรฯ และมติครม.

“ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ทางกรมปศุสัตว์ จะเชิญนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มามอบนโยบายในการขับเคลื่อนโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ในงานประชุมสัมมนาชี้แจงแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ประจำปีการศึกษา 2562”

ด้านนายชัชวาลย์ มณีทัพ นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย เผยว่า นมโรงเรียน เป็นแค่ 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรมนมทั้งระบบ หลักเกณฑ์ชัดแล้วว่าผู้ประกอบการหรือเกษตรกรที่ใช้สิทธินำเข้านมผงแล้ว จะสามารถเข้าโครงการนมโรงเรียนได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขอให้ส่งเรื่องเข้าคณะกรรมการนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด ที่มีนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานจะได้วินิจฉัยชี้ขาด เมื่อตัดสินแล้วขอให้ทุกฝ่ายยอมรับกติกาจะอยู่ร่วมกันได้