“อาคม” ย้ำเมกะโปรเจ็กต์ไทย-จีน มั่นใจเศรษฐกิจไทยยังแนวโน้มดี

21 มี.ค. 2562 | 00:54 น.

“อาคม” เผยฝ่ายไทยพร้อมเดินหน้ารถไฟไทย-จีนเฟส 2 ยันเร่งขับเคลื่อนตามแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ย้ำโครงสร้างพื้นฐานเสริมความแข็งแกร่งเศรษฐกิจไทยในภาวะสงครามการค้าโลกและผลกระทบจากผลพวง 2 ประเทศมหาอำนาจ 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังปาฐกถาหัวข้อ “ความร่วมมือด้านคมนาคมไทย-จีน จุดเชื่อมโยงเศรษฐกิจที่ยั่งยืน” ในการสัมมนา เรื่องผลกระทบเศรษฐกิจโลกและไทย จากการปรับตัวของ GDP จีนที่จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนว่า ขณะนี้เป็นที่สนใจทั่วโลกด้านสงครามการค้าของ 2 ประเทผสมหาอำนาจของโลกที่จะกระทบกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะจีดีพี ซึ่งจีดีพีมีองค์ประกอบหลายตัว หนึ่งในนั้นคือการลงทุน ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลและคมนาคมชัดเจนด้านการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมขนส่งปี 2558-2565 ซึ่งกระทรวงคมนาคมพร้อมปรับแผนทุก 5 ปีมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการเร่งผลักดัน

“อาคม” ย้ำเมกะโปรเจ็กต์ไทย-จีน มั่นใจเศรษฐกิจไทยยังแนวโน้มดี

ดังนั้นเรื่องผลกระทบของจีดีพีนั้นยังเชื่อว่าการลงทุนจะเป็นตัวขับเคลื่อนเนื่องจากมีการลงทุนต่อเนื่อง พร้อมกับเบิกจ่ายงบประมาณทุกปี ส่วนหนึ่งเกิดจากที่ไทยไม่ได้ลงทุนขนาดใหญ่มานาน ในครั้งนี้ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศดีขึ้นตามไปด้วย

ช่วงที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการใน 4 เรื่อง โดยเฉพาะการปฏิรูปและการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ทางราง ทางอากาศ ทางน้ำ คิดเป็นมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านบาท จะทยอยลงทุน ดังนั้นเม็ดเงินการลงทุนจึงทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นไปตามแผนงาน

ซึ่งทางบก เน้นถนน ไฮเวย์ ทางหลวงท้องถิ่น ระยะ 4 ปีนี้พบว่าลงทุนไปจำนวนมาก โดยเฉพาะมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง ตลอดจนการขยาย 4 ช่องจราจร ทางหลวงเชื่อมแหล่งท่องเที่ยว ชุมชน เพื่อแก้ปัญหาจราจรแต่ละพื้นที่จึงพบว่ามีการก่อสร้างทั่วทุกภูมิภาค

“อาคม” ย้ำเมกะโปรเจ็กต์ไทย-จีน มั่นใจเศรษฐกิจไทยยังแนวโน้มดี

ในส่วนงานระงบบราง นั้นเนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ และมีการลงทุนจำนวนมาก แบ่ง 3 ส่วน คือ 1.แก้จราจรกทม. จากโครงการรถไฟฟ้า 10 สาย ขณะนี้สายสีส้มตะวันตกรอเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ส่วนเส้นทางในวงแหวนคือสายสีน้ำเงินจะเปิดปี 2563 ครบทั้งเส้นทาง ล่าสุดครม.อนุมัติสายสีแดงซึ่งมีพื้นที่ใช้ร่วมกับแอร์พอร์ตลิ้งค์ ใช้พื้นที่ร่วมกับรถไฟความเร็วสูงก็ได้ข้อสรุปที่ลงตัวชัดเจนแล้ว

สำหรับโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯนั้นหลายเส้นทางมีการก่อสร้างและเตรียมทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ในส่วนสายสีแดงซึ่งงานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อแล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนตัวรถจะนำเข้าในเดือนสิงหาคมนี้ ที่จะต้องมีการทดสอบงานระบบต่างๆให้เรียบร้อย

“สายสีแดงเส้นทางอื่นๆที่เป็นส่วนต่อขยายและเชื่อมโยง รูปแบบเป็นรถไฟฟ้าชานเมือง เชื่อมที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นสถานีใหม่แทนหัวลำโพง นอกจากนั้นยังมีรถไฟ 3 ประเภทโดยส่วนหนึ่งวิ่งเข้าหัวลำโพงบางส่วน อาทิ สายสีแดง สายสีน้ำเงิน และ 3.รถไฟระหว่างเมือง โดยพบว่ารถขบวนใหม่ 25 ขบวน ได้ประกอบในจีน”

“อาคม” ย้ำเมกะโปรเจ็กต์ไทย-จีน มั่นใจเศรษฐกิจไทยยังแนวโน้มดี

นายอาคมกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการภายใต้ความร่วมมือไทย-จีนที่รัฐบาลไทยและกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันอยู่ในขณะนี้คือรถไฟไทย-จีน ที่เร่ิมผลักดันมาตั้งแต่ปี 2553 และมีการลงนามเอ็มโอยูตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 เฟสๆแรกช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม.โดยช่วงนี้ฝ่ายจีนออกแบบรายละเอียด พร้อมแบ่งออกเป็นสัญญาก่อสร้าง 12 สัญญาและงานระบบ 2 สัญญา และเฟส 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. ฝ่ายไทยออกแบบเอง ส่วนฝ่ายจีนเป็นที่ปรึกษา การออกแบบคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นปีหน้าซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2567 ต่อไป

“ในจำนวน 14 ตอนเริ่มจากตอนสั้นๆที่ง่ายต่อการดำเนินการคือช่วง 3.5 กม. เริ่มขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 โดยไม่ต้องมีการเวนคืน เป็นการเริ่มต้นเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่จากจีนที่วิศวกรไทยได้เรียนรู้จากความร่วมมือระหว่างประเทศ ขณะนี้ได้ลงนามสัญญาก่อสร้างตอนที่ 2 ระยะทาง 11 กม.ไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนตอนที่ 3-14 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มๆ ที่ 1 แบ่งออกเป็น 5 สัญญา  ระยะทาง 144 กม. และกลุ่มที่ 2 อีก 7 สัญญา ระยะทาง 91 กม.อยู่ในขั้นตอนเร่งประกวดราคาต่อไปคาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างภายในเดือนพฤษภาคมนี้และลงนามสัญญาภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้โดยมีแผนก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2565 และเปิดให้บริการปี 2566”