ตัวเลข ศก.สหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด กดดันราคาน้ำมันดิบ

11 มี.ค. 2562 | 03:10 น.

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 11 มี.ค. 2562

● ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเติบโตช้าลงและการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบที่อาจปรับตัวลดลง โดยตัวเลขการขยายตัวการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. 2562 ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 20,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ย. 2560 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ว่า จะปรับเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง นับว่าเป็นสัญญาณการเติบโตของเศรษฐกิจที่ช้ามากในไตรมาสแรกของปี

● ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซนลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.1 ซึ่งลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือน ธ.ค. 2561 ที่ระดับร้อยละ 1.7 รวมถึงออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนกังวล ว่า สภาพเศรษฐกิจโลกอาจจะอ่อนแอลงมากยิ่งขึ้น


+/- ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบลงจากผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก โดยซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดการผลิตน้ำมันดิบเดือน ก.พ. 2561 ลงมาอยู่ที่ระดับ 10.136 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 ล้านบาร์เรล ตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 12.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้สหรัฐฯ ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก

+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุนเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 8 มี.ค. 2561 ปรับลดลง 9 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 834 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันเบนซินยังคงตึงตัวมากขึ้น หลังโรงกลั่นน้ำมันปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจากประเทศอินเดีย รวมถึงอุปทานน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับที่สมดุลกับความต้องการ
 

595959859


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

● ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

● ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 63-68  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล


ปัจจัยที่น่าจับตามอง

อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังโอเปกและพันธมิตรร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด กำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกปรับลดลงมาอยู่ที่ 30.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558  ประกอบกับรัสเซียเตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตในเดือน มี.ค. 2562 ลงราว 228,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตในเดือน ต.ค. 2561

จับตาผลสรุปของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังการเจรจาระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาดำเนินไปด้วยดี โดยทั้ง 2 ประเทศ จะมีการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มี.ค. นี้ ซึ่งหากสงครามการค้ายุติลง เศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันโลกจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นได้

ติดตามการตัดสินใจของโอเปกและพันธมิตรเกี่ยวกับทิศทางในการปรับลดกำลังการผลิต หลังคาดว่าจะไม่มีการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือน เม.ย. 2562 อย่างไรก็ตาม คาดว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะมีข้อสรุปในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน มิ.ย. 2562


ที่มา : บมจ.ไทยออยล์

090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503