ME รุกเจาะกลุ่มฟรีแลนซ์- Gen D ตั้งเป้าเงินฝากโต 20%

06 มี.ค. 2562 | 10:52 น.

ME by TMB เดินหน้าตอกย้ำเบอร์ 1 ธนาคารดิจิทัล ตั้งเป้าเงินฝาก-ฐานลูกค้าใหม่โต 20% เจาะกลุ่มฟรีแลนซ์-Gen D ใช้โซเชียลและดิจิทัลในชีวิตประจำวัน คาดไตรมาส 2 ธปท.ไฟเขียว e-KYC กระทุ้งยอดลูกค้าเกิดบัญชีใหม่ ดัน 5 ปี ยอดลูกค้าแตะ 7.2 แสนบัญชี จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 4.3 แสนบัญชี

               นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปีนี้ ME ยังคงตั้งเป้าฐานเงินฝากเติบโตต่อเนื่องที่ 20% จากปัจจุบันมีเงินฝากที่ 5 หมื่นล้านบาท จากปี 2561 เงินฝากขยายตัว 10% และตั้งเป้าฐานลูกค้าใหม่โต 20% จากฐานลูกค้าปัจจุบัน 3.6 แสนบัญชีจะเพิ่มเป็น 4.3 แสนบัญชีในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าอีก 1 เท่าใน 5 ปี ซึ่งจะมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 7.2 แสนบัญชี อย่างไรก็ดีเป้าหมายสำคัญ คือ การเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในแง่การสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้ลูกค้า

               สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ME ปีนี้จะเน้นดึงกลุ่มอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์เข้ามาเปิดบัญชีออมเงินและใช้บัญชีเงินฝากดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงกลุ่ม Gen D เป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้โชเซียลและดิจิทัลในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัจจุบันมีคนกลุ่มนี้มาก ดูได้จากตัวเลขการใช้อินเตอร์เน็ตกว่า 50 ล้านคน จึงเป็นโอกาสของ ME ที่จะเข้าไปให้บริการธนาคารดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันฐานลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลสัดส่วน 73% และต่างจังหวัด 27% โดยเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 18-35 ปี สัดส่วน 51% อายุ 35-44 ปี สัดส่วน 27% และอายุ 45 ปีขึ้นไปมีอยู่ประมาณ 22%

ME รุกเจาะกลุ่มฟรีแลนซ์- Gen D   ตั้งเป้าเงินฝากโต 20%

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังคงเสนอสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป 4.5 เท่า หรือเท่ากับ 1.7% ต่อปี ซึ่งนับตั้งแต่เปิดบริการมา 7 ปี MEจ่ายดอกเบี้ยไปแล้วกว่า 4,490 ล้านบาท ส่วนจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหรือไม่ อาจต้องดูจากภาวะตลาดและการแข่งขันด้านเงินฝากโดยรวมด้วย แต่เชื่อว่า อัตราดอกเบี้ยที่เสนออยู่ถือเป็นอัตราที่จูงใจ ซึ่งปัจจุบันในฐานลูกค้าทั้งหมดมี 50% ที่ใช้บริการของ ME อย่างสม่ำเสมอ(Active) และ Inactive ราว 20-30% และที่เหลือจะเป็นกึ่งๆ ใช้และไม่ใช้

               “ตอนนี้การพัฒนาระบบดิจิทัลแบงกิ้งของไทยค่อนข้างรวดเร็ว โดยเฉพาะโมบายแบงกิ้งที่เติบโตรวดเร็วมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาครัฐสนับสนุนการใช้ระบบพร้อมเพย์ และธนาคารต่างๆ ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียม ทำให้ปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเชื่อว่าหลังจาก e-KYC นำมาใช้จะยิ่งทำให้ดิจิทัลแบงกิ้งขยายตัวสูง ส่วน ME ยังคงตั้งเป้าเติบโตเงินฝากและฐานลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา เงินฝากเราโตเฉลี่ย 44% ต่อปี และลูกค้าใหม่เติบโต 22% ต่อปี”

อย่างไรก็ตามคาดว่า ภายในไตรมาส 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะอนุมัติการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์(e-KYC)ออกจากศูนย์ทดสอบนวัตกรรมการเงิน(Ssox) ซึ่งจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อ ME และสถาบันการเงินแห่งอื่น เพราะลูกค้าสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยบัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียว และยังสามารถทำผ่านแอพพลิเคชั่นแบบเรียลไทม์ทันที ไม่ต้องมายืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารอีกต่อไป จะช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ธนาคารได้จำนวนมาก รวมถึงทำให้การแข่งขันในด้านดิจิทัลแบงกิ้งมีอะไรใหม่ๆ มานำเสนอให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป้าหมาย ทึ่จะเพิ่มลูกค้าขึ้น 1 เท่าใน 5 ปี ก็มีส่วนจาก e-KYC ที่หนุนให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีง่ายขึ้นสะดวกขึ้น

ME รุกเจาะกลุ่มฟรีแลนซ์- Gen D   ตั้งเป้าเงินฝากโต 20%