'กฤษฎา' ออกโรงติง "พ.ร.บ.ข้าว" หวั่นกระทบชาวนา - นายทุนยึดเมล็ดพันธุ์ 1.5 หมื่นล้าน
'กฤษฎา' ท้วงร่าง พ.ร.บ.ข้าว โค้งสุดท้าย หวั่นเอื้อนายทุนผูกขาดตลาดเมล็ดพันธุ์ 1.5 หมื่นล้าน กระทบหนักชาวนาและตลาดข้าวระยะยาว สนช. หนุนสอบที่มาข้าวหอมเวียดนาม เชียร์รับรองพันธุ์ทันที หากไม่ละเมิดสิทธิ
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติวาระที่ 1 รับหลักการร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... (เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 61) พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา โดยมี พล.อ.มารุต ปัชโชตะสิงห์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ การพิจารณารายมาตราเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะส่งเข้าการพิจารณาของ สนช. เพื่อพิจารณาวาระ 2 และ 3 ภายในเดือน ก.พ. นี้
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" จากกรณีข้าวหอมพวง หรือ ชาวบ้านเรียกว่า ข้าวจัสมิน 85 หรือ หอมเวียดนาม ได้สั่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจดีเอ็นเอ ว่า ใช่พันธุ์ข้าวของเวียดนามหรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้น มี พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ที่กรมวิชาการเกษตรดูแล แล้วหากนำไปจำหน่ายค้าขาย ก็มี พ.ร.บ.การค้าข้าว ของกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่แล้ว
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ข้าว นั้น ในฐานะฝ่ายบริหารและเคยปฏิบัติงานที่อยู่ในพื้นที่ชนบทตั้งแต่เป็นปลัดอำเภอจนถึงเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย มีมุมมองว่า หากกฎหมายออกมามีผลบังคับใช้ คนที่จะมาขายพันธุ์ข้าวได้จะต้องจดทะเบียนนั้น จะเป็นการจำกัดสิทธิในการขยายพันธุ์ข้าวของชาวนา และจะเป็นข้อจำกัดการแข่งขันตลาดข้าวในต่างประเทศ
"มองว่า ควรจะปล่อยให้เป็นธรรมชาติ แต่ถ้ามีการหลอกลวงขายเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วกลายเป็นธุรกิจ ก็ไม่ต้องกลัว เพราะมี พ.ร.บ.ค้าข้าว พ.ศ. 2489 ที่กำกับโดยกระทรวงพาณิชย์ เมื่อมีกฎหมายแล้ว ทุกอย่างจะต้องมาขึ้นทะเบียนกรมการข้าว ปัจจุบัน กรมมีเจ้าหน้าที่เฉพาะอยู่ในเขตต่างจังหวัดไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการอยู่ในกรุงเทพฯ
ขณะที่ วิถีชีวิตชาวนาไทยขายพันธุ์ หรือ แบ่งปันพันธุ์กันทั่วไป ถ้ามาขึ้นทะเบียนพันุธ์ข้าวไม่ได้ (อันเนื่องมาจากมีเอกชนไปจดทะเบียนพันธุ์ข้าวไว้แล้ว) เหมือนกับบีบให้ชาวนาจะต้องไปซื้อพันธุ์ข้าวจากบริษัทยักษ์ใหญ่ (ตลาดเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย 1.5 หมื่นล้านบาท) หวั่นชาวนาจะตกเป็นผู้ต้องหาและเอื้อนายทุน"
ข้อกังวลดังกล่าว ตนได้มอบหมายให้ นายกฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล เลขานุการ คณะกรรมาธิการวิสามัญคนที่ 2 ให้นำข้อท้วงติงไปแจ้งกับคณะกรรมาธิการให้ทราบ เพื่อตั้งเป็นข้อสังเกต ส่วนคณะกรรมาธิการจะเป็นอย่างไรนั้น ก็เป็นสิทธิของคณะที่จะตัดสินใจ ว่า จะผลักดันร่างกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้หรือไม่ จะไม่ไปก้าวก่าย
ด้าน แหล่งข่าวคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... เผย จากกรณีข้าวหอมเวียดนามในกฎหมายข้าว ให้อำนาจอธิบดีกรมการข้าวไปตรวจสอบดูแล เช่น การนำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ หรือจะไปขัดสิทธิบัตรของประเทศที่อ้างถึงหรือไม่ ถ้าไม่ผิดกกฎหมาย ก็ให้กรมการข้าวไปดูแลและรับรองพันธุ์ให้ถูกต้อง แต่ถ้าผิดก็จะกลายเป็นความผิดระหว่างประเทศ ก็ต้องมาคิดกันต่อไป ว่า จะทำอย่างไรให้ถูกต้อง เช่น ขอซื้อลิขสิทธิ์นำเข้ามาให้ถูกต้อง เป็นต้น
สำหรับขั้นตอนของ ร่าง พ.ร.บ.ข้าว หลังพิจารณารายมาตราเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะส่งเข้าคณะตรวจร่างของสภา ทางคณะจะแถลงข่าวก่อนที่จะบรรจุร่างกฎหมายให้ สนช. พิจารณาในวาระ 2 และ 3 ต่อไป
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,441 วันที่ 3 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติวาระที่ 1 รับหลักการร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... (เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 61) พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา โดยมี พล.อ.มารุต ปัชโชตะสิงห์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ การพิจารณารายมาตราเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะส่งเข้าการพิจารณาของ สนช. เพื่อพิจารณาวาระ 2 และ 3 ภายในเดือน ก.พ. นี้
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" จากกรณีข้าวหอมพวง หรือ ชาวบ้านเรียกว่า ข้าวจัสมิน 85 หรือ หอมเวียดนาม ได้สั่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจดีเอ็นเอ ว่า ใช่พันธุ์ข้าวของเวียดนามหรือไม่ ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้น มี พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ที่กรมวิชาการเกษตรดูแล แล้วหากนำไปจำหน่ายค้าขาย ก็มี พ.ร.บ.การค้าข้าว ของกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่แล้ว
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ข้าว นั้น ในฐานะฝ่ายบริหารและเคยปฏิบัติงานที่อยู่ในพื้นที่ชนบทตั้งแต่เป็นปลัดอำเภอจนถึงเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย มีมุมมองว่า หากกฎหมายออกมามีผลบังคับใช้ คนที่จะมาขายพันธุ์ข้าวได้จะต้องจดทะเบียนนั้น จะเป็นการจำกัดสิทธิในการขยายพันธุ์ข้าวของชาวนา และจะเป็นข้อจำกัดการแข่งขันตลาดข้าวในต่างประเทศ
"มองว่า ควรจะปล่อยให้เป็นธรรมชาติ แต่ถ้ามีการหลอกลวงขายเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้วกลายเป็นธุรกิจ ก็ไม่ต้องกลัว เพราะมี พ.ร.บ.ค้าข้าว พ.ศ. 2489 ที่กำกับโดยกระทรวงพาณิชย์ เมื่อมีกฎหมายแล้ว ทุกอย่างจะต้องมาขึ้นทะเบียนกรมการข้าว ปัจจุบัน กรมมีเจ้าหน้าที่เฉพาะอยู่ในเขตต่างจังหวัดไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการอยู่ในกรุงเทพฯ
ขณะที่ วิถีชีวิตชาวนาไทยขายพันธุ์ หรือ แบ่งปันพันธุ์กันทั่วไป ถ้ามาขึ้นทะเบียนพันุธ์ข้าวไม่ได้ (อันเนื่องมาจากมีเอกชนไปจดทะเบียนพันธุ์ข้าวไว้แล้ว) เหมือนกับบีบให้ชาวนาจะต้องไปซื้อพันธุ์ข้าวจากบริษัทยักษ์ใหญ่ (ตลาดเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย 1.5 หมื่นล้านบาท) หวั่นชาวนาจะตกเป็นผู้ต้องหาและเอื้อนายทุน"
ข้อกังวลดังกล่าว ตนได้มอบหมายให้ นายกฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล เลขานุการ คณะกรรมาธิการวิสามัญคนที่ 2 ให้นำข้อท้วงติงไปแจ้งกับคณะกรรมาธิการให้ทราบ เพื่อตั้งเป็นข้อสังเกต ส่วนคณะกรรมาธิการจะเป็นอย่างไรนั้น ก็เป็นสิทธิของคณะที่จะตัดสินใจ ว่า จะผลักดันร่างกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้หรือไม่ จะไม่ไปก้าวก่าย
ด้าน แหล่งข่าวคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... เผย จากกรณีข้าวหอมเวียดนามในกฎหมายข้าว ให้อำนาจอธิบดีกรมการข้าวไปตรวจสอบดูแล เช่น การนำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ หรือจะไปขัดสิทธิบัตรของประเทศที่อ้างถึงหรือไม่ ถ้าไม่ผิดกกฎหมาย ก็ให้กรมการข้าวไปดูแลและรับรองพันธุ์ให้ถูกต้อง แต่ถ้าผิดก็จะกลายเป็นความผิดระหว่างประเทศ ก็ต้องมาคิดกันต่อไป ว่า จะทำอย่างไรให้ถูกต้อง เช่น ขอซื้อลิขสิทธิ์นำเข้ามาให้ถูกต้อง เป็นต้น
สำหรับขั้นตอนของ ร่าง พ.ร.บ.ข้าว หลังพิจารณารายมาตราเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะส่งเข้าคณะตรวจร่างของสภา ทางคณะจะแถลงข่าวก่อนที่จะบรรจุร่างกฎหมายให้ สนช. พิจารณาในวาระ 2 และ 3 ต่อไป
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,441 วันที่ 3 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
