5G เปิดโอกาสสู่เทคโนโลยีหุ่นยนต์

13 ม.ค. 2562 | 02:01 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2562 ยังต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้ง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน การเลือกตั้งของเยอรมนี และการขอแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ส่งผลให้หลายประเทศได้รับผลกระทบการส่งออก ไม่ว่าจะเป็น จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย ซึ่งการส่งออกของไทยมีสัดส่วนถึง 70% ของจีดีพี ทำให้ช่วงที่ผ่านมาการส่งออกไทยติดลบและเริ่มกลับมาเป็นบวกในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจกล่าวในงานสัมมนา Thailand Economic Challenges 2019 ซึ่งจัดโดยธนาคาร กรุงไทยร่วมกับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการระบุว่า ปัจจัยภายในที่มีผลต่ออนาคตเศรษฐกิจไทยปี 2562 คือ การเลือกตั้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในปีนี้ แม้จะมีรัฐบาลผสม แต่หากสามารถขับเคลื่อนนโยบายได้ในครึ่งปีแรก สร้างความแน่นอนให้เกิดขึ้น สร้างความสามัคคีภายในประเทศ เพื่อพิสูจน์ให้ต่างประเทศเห็นว่า รัฐบาลผสมสามารถสร้างชาติไทยให้มีความมั่นคงยั่งยืนได้ จะเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติได้

[caption id="attachment_372170" align="aligncenter" width="503"] สมคิด จาตุศรีพิทักษ์2 สมคิด จาตุศรีพิทักษ์[/caption]

“ไทยมีโอกาสสูง เพราะอยู่หน้าประตูสู่อาเซียน หากมัวทะเลาะกันหรือบริหารประเทศไม่ดี โอกาสที่จะเห็นนักธุรกิจทั้งต่างชาติและไทยหันไปลงทุนที่อื่นแน่ โดยเฉพาะคู่แข่งสำคัญทั้งเวียดนามและมาเลเซีย”

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ถ้าตัวเลขเดือนธันวาคมออกมาดีทั้งปี จีดีพีน่าจะเติบโตได้ที่ 4.2% แต่หากไม่ดีมากจีดีพีก็จะอยู่ในระดับ 4% เพราะล่าสุดตัวเลขการลงทุนออกมาทะลุเป้า โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เติบโต100% ขณะการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้น ยกเว้นราคาสินค้าเกษตรที่ค่อยๆ กระเตื้องขึ้น

ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี (Disruption) ที่สามารถเปลี่ยนโลกและแนวทางทำธุรกิจ หากมองในระยะไกลทั้งความมั่งคั่งความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทยจะต้องสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความสามารถ เพื่อให้ไทยมีจุดยืนในเวทีโลกที่มั่นคง

“ความท้าทายของปีหมู จึงอยู่ที่ว่า ต้องจัดการเรื่องของใหม่ที่เข้ามาและใช้โอกาสจากเทคโนโลยี ซึ่งภาคอุตสาหกรรมกำลังเผชิญความไม่แน่นอน โดยไม่รู้ว่าตลาดในจีนจะซบเซาแค่ไหน หรือเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะดีขึ้นและสหภาพยุโรปที่ยังมั่วอยู่ ซึ่งไทยทำการค้ากับทั่วโลกย่อมเผชิญความไม่แน่นอน จึงวางใจไม่ได้เพราะปัจจัยภาย นอกเกินการควบคุม แม้ผลสำรวจความเชื่อมั่นทั้งบริษัทญี่ปุ่นและสภาอุตสาหกรรมส่งสัญญาณบวกก็ตาม”

MP19-3434-a

ดังนั้นประเทศไทยต้องเร่งแก้ความเหลื่อมลํ้าทั้งด้านรายได้และโอกาส ไม่เช่นนั้นจะบั่นทอน เพราะเทคโนโลยีจะยิ่งเพิ่มช่องว่างอีก ขณะเดียวกันต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยสร้างขีดความสามารถที่แท้จริงให้ก้าวทันเวทีโลก โดยเริ่มจากเวทีภูมิภาครวมถึงสิ่งแวดล้อมและต้องขยายดำเนิน การใช้จุดแข็งสร้างความแตกต่าง ซึ่งหนีไม่พ้นเทคโนโลยี 5G ที่จะมาในปีนี้ โดยใช้ 5G พัฒนาคนให้ใช้เทคโนโลยี หรือมีทักษะที่เหมาะสมมีนวัตตกรรม สร้างสรรค์ที่จะนำไปสู่ความแตกต่างด้วยการเป็นเจ้าของแบรนด์ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน เพราะความผันผวนมีแต่จะเพิ่มขึ้น เหล่านี้จะต้องตอบโจทย์ความมั่นคงของประเทศ

ขณะที่กระทรวงอุตสาห กรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับภาคเอกชนรายใหญ่จัดตั้งบริษัท INNO SPACE Thailand ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการอีอีซีไอ เป็นการลงขันด้วยวงเงิน 500 ล้านบาทคาดว่าจะเกิดขึ้นภาย ในไตรมาสแรกของปีนี้และ 2. การปรับทักษะคนไทยสู่ศตวรรษ 21 ซึ่งทั้งส.อ.ท.หอการค้าฯ และสมาคมธนาคารไทยร่วมจัดตั้งแพลตฟอร์มนี้

ดังนั้นปีหมูทองจะแท้แค่ไหนขึ้นอยู่กับจะใช้โอกาสหรือปล่อยให้เป็นความท้าทายที่มาบั่นทอนโดยส่วนตัวมองวันนี้เป็นโอกาสซึ่งรัฐบาลใหม่ฟ้าใหม่ต้องร่วมกันทำแนวทางความยั่งยืนและก้าวทันโลก

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,434 วันที่  10 - 12 มกราคม พ.ศ. 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว