การเมืองไม่ชัดกดหุ้นไทย ครึ่งปีแรกรอดูผลเลือกตั้ง-เสถียรภาพรัฐบาลชุดใหม่

06 ม.ค. 2562 | 03:32 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

 

โบรกฯมองเลื่อนเลือกตั้งยังอยู่ในโรดแมปกระทบหุ้นไม่มาก แต่ความไม่ชัดเจนเรื่องเสถียรภาพ และการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เป็นปัจจัยกดดันหุ้นไทยครึ่งปีแรกซึมยาว แนะถือเงินสดเกิน 60% รอจังหวะเข้าซื้อของถูก

การประกาศเลื่อนการเลือกตั้งจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ออกไป แต่จะยังอยู่ในกรอบ 150 วันตามกฎหมาย หรือไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นบ้าง แต่ไม่กระทบรุนแรง เนื่องจากยังอยู่ในกรอบเวลาเดิมที่กำหนดไว้

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า การเลื่อนเลือกตั้งไม่ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยมากนัก เนื่องจากคาดว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปเร็วสุดไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ หรือไม่น่าจะเกิน 1 เดือน ซึ่งยังเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่ตลาดคาดการณ์ไว้

[caption id="attachment_370381" align="aligncenter" width="503"] ประกิต สิริวัฒนเกตุ ประกิต  สิริวัฒนเกตุ[/caption]

หากการเลือกตั้งเลื่อนออกไปเป็นปลายเดือนมีนาคม การประกาศผลการเลือกตั้งก็จะประกาศในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นก็จะมีกระบวนการต่างๆภายหลังการประกาศผล เช่น การเลือกนายกรัฐมนตรี การจัดตั้งคณะรัฐบาล เสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าความชัดเจนต่างๆน่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม หรือในครึ่งปีหลัง

ในช่วงครึ่งปีแรกยังมีความไม่ชัดเจน ไม่แน่นอนหลายอย่าง บล.กสิกรไทยฯ ได้ปรับลดเป้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปีนี้ลงเหลือ 1745 บนสมมติฐานราคานํ้ามันดิบดูไบเฉลี่ย 55 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยได้ปรับลดกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานในไตรมาส 4/2561 ลดลงโดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น แต่มองว่าอาจจะกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 1/2562 ขาดทุนจากสต๊อกนํ้ามันจะลดลง ค่าการ
กลั่นอาจจะดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือเงินสดเกินกว่า 60% เน้นเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่จะฟื้นตัวในระยะสั้นๆ อาทิ ADVANC,  CPALL, STEC, ERW, CENTEL

นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ จก. (SCBS) กล่าวถึงการลงทุนในปี 2562 ว่าการขับเคลื่อนยังมาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก จากการเติบโต-ของเศรษฐกิจ รายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 4.0% ต่อเนื่องจากปี 2561 ที่ขยายตัว 4.2% กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดย SCBS คาดปีนี้จะโต 11% จากปี 2561 ที่โต 7% และอานิสงส์จากการเลือกตั้ง

“ตลาดหุ้นไทยจะทะยานตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ จากสถิติดัชนีหุ้นก่อนการเลือกตั้ง 2 เดือนแรก จะปรับขึ้นเดือนละ 1-2% ขณะที่ราคาหุ้นไทยขณะนี้ถือว่าค่อนข้างถูก P/E ต้นปีที่แล้วอยู่ที่ 16 เท่า ปลายปี 2561 อยู่ที่ 13 เท่า และใน best case (การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนลงตัว) SET Index สิ้นปีนี้ยังมีโอกาสแตะ 2000 จุด โดยคาด 2 เดือนแรก ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นมา
สู่ระดับ 1700 จุด ด้วยกำไรของตลาดที่ยังโตเฉลี่ย 10% ทำให้ sentiment การลงทุนปีนี้เป็นบวกมากกว่าปีก่อน”

นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการ บล.แอพเพิล เวลธ์ จก. (มหาชน) กล่าวว่า การเลื่อนเลือกตั้งซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 17 มีนาคม หรือไม่เกิน 24 มีนาคมนี้ ยังอยู่ในไทม์ไลน์ที่นักวิเคราะห์คาด จึงไม่ส่งผลต่อ sentiment การลงทุนในไตรมาสแรก ประเด็นที่ต้องติดตามยังเป็นประเด็นความชัดเจนเรื่อง Brexit, การเจรจาการค้าสหรัฐฯ และจีน ที่จะเริ่มเจรจาในวันที่ 7 มกราคมนี้ โดยคาดว่าผลการเจรจาการค้าในครั้งนี้ จะออกมาเชิงบวก เพราะสถานการณ์สงครามการค้าขณะนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกแล้ว

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,433  วันที่  6-9  มกราคม 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว