ผลสำรวจประชามติ ล่าสุดของสวนดุสิตโพล ที่
ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. มีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 1 ในผลสำรวจ ที่ถามว่า อยากได้ใครเป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้ง ด้วยสัดส่วน 24.72% ตามมาด้วย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในสัดส่วน 17.57% และ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นอันดับ 3 ในสัดส่วน 16.53% ดูเผิน ๆ เหมือนน่ายินดีกับผลสำรวจชิ้นนี้สำหรับลุงตู่ ที่คนจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ อีกคำรบหนึ่ง และอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจกระโดดลงมา รับการเสนอชื่อในบัญชีนายกฯ ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง (พลังประชารัฐ เป็นไปได้มากสุด)
แต่ดูให้ถ้วนถี่ จะพบว่าการสำรวจนี้เกิดขึ้นในภาวะที่
"คนอื่น" ไม่สามารถเคลื่อนไหวทางการเมือง (หาเสียง) ได้ ขณะที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล คสช. มีการเคลื่อนไหว (หาเสียง จะจงใจหรือไม่ก็ตาม) มากว่า 4 ปี แต่คะแนนไม่ได้ทิ้งห่างตัวแทนจากพรรคการเมืองมากสักเท่าใดนัก อนุมานได้ว่าเมื่อมีการปลดล็อกและหาเสียงทางการเมืองได้ คาดว่าเสียงตอบรับของพรรคการเมืองจะทะยานขึ้น อีกประเด็นหนึ่ง หลาย ๆ ประเทศ ผลการเลือกตั้งและลงประชามติ ได้หักผลสำรวจโพลล์ (คนหลอกโพลล์) มาแล้ว อย่างน้อย 2 มหาอำนาจ ที่เชื่อว่าโพลล์แม่นยำที่สุดในโลก
ในเดือนมิถุนายน 2016 (2559) ผลการลงประชามติ แยกสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ออกมาสวนทางผลสำรวจทั้งหลายที่ยังคงให้อังกฤษอยู่กับสหภาพยุโรป แต่ผลที่แท้จริงประชามติให้แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือกรณีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งโพลล์คะแนนนิยม
ฮิลลารี คลินตัน นำ
โดนัลด์ ทรัมป์ มาโดยตลอด แต่ผลเลือกตั้งออกมา โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะ ฮิลลารี แบบไม่น่าเชื่อกันทั้งโลก
ยก 2 เหตุการณ์สำคัญของโลกมาเพื่อสะท้อนให้ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ ต้องคิดให้รอบคอบ มากกว่าเชื่อโพลล์ ส่วนกลิ่นอายการเมือง จะเย้ายวนแค่ไหน เป็นเรื่องที่ลุงตู่ต้องตัดสินใจเองและต้องรับผลกับการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นนั้นด้วย
ส่วนการที่ 2 พรรคการเมืองใหญ่
"เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" เป็นแนวร่วมมุมกลับ เรียกร้องให้เร่งปลดล็อก เดี๋ยวเตรียมหาเสียงไม่ทันการณ์ พูดกันภาษาชาวบ้าน
"จะเอาอะไรอีก" ในเมื่อทั้ง กกต. และรัฐบาลประสานเสียงกำหนดวันเลือกตั้ง เป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แล้ว กระบวนการในการปลดล็อกเป็นขั้นเป็นตอนรอผลปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย จะอ้างว่าทำไม่ทัน ก็อ้างไป ปกติเวลายุบสภา เขาเลือกตั้งภายใน 45 วัน ยังเตรียมตัวกันทัน นี่รู้วันเลือกตั้งกันล่วงหน้าครึ่งปีแล้วบอกว่าไม่ทัน
"อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่" คือ ต้องการเคลื่อนไหวเร็ว ปลดล็อกเมื่อไหร่ 2 พรรคใหญ่ ไล่
"ขย้ำ" ลุงตู่และ คสช. ชนิดไม่ให้ตั้งตัว เพราะต้องการลดคะแนนนิยมที่ลุงตู่มี ซึ่งได้สะสมมากว่า 4 ปี
ฉะนั้นเดินหน้าตามโรดแมป เดิมตามระยะเวลาที่นำไปสู่การเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 อย่าไปฟังนักการเมือง ที่มีปากไว้แค่
"พูด" และไม่ต้องขู่แบบ
วิษณุ เครืองาม ที่บอกว่าถ้าอยากได้ระยะเวลานานในการหาเสียงให้ไปเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2562 เพราะยิ่งเลื่อนเวลา ยิ่งเป็นประเด็นให้ 2 พรรคใหญ่ไล่
"ขยี้" โดยไม่มีประโยชน์
……………….
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ โดย เอราวัณ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,340 วันที่ 13-15 ก.ย. 2561 หน้า 16
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ที่นี่ไม่มีความลับ :
“บิ๊กจิน”สกัดดันทุรัง ฮั้วกองทุนพลังงานหมื่นล้าน
● ที่นี่ไม่มีความลับ :
“ลุงตู่”ขันนอต AOT ไม่ปล่อยเรื่องฉาว“ลอยนวล”