บอร์ดบีโอไอไฟเขียวเปิดส่งเสริมกิจการพัฒนาที่พักอาศัยให้แรงงานมาตรฐานสากล

09 พ.ค. 2561 | 10:55 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บอร์ดบีโอไอไฟเขียวเปิดส่งเสริมกิจการพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับแรงงานมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทยและต่างด้าวทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และขยายเวลาให้การส่งเสริมใน 10 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนออกไปสิ้นสุดปี 2563

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบเปิดส่งเสริมการลงทุนแก่ “กิจการพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับแรงงานมาตรฐานสากล” ทั้งสำหรับแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว โดยต้องเป็นที่พักที่ได้มาตรฐานตามแนวทางขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย สำหรับแรงงานที่มีคุณภาพสอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล แก้ปัญหาความแออัดของชุมชน และสภาพของที่พักอาศัยซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะและเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงาน

boi

ทั้งนี้ กิจการลงทุนก่อสร้างที่พักอาศัยสำหรับแรงงานมาตรฐานสากล สามารถดำเนินการได้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หากตั้งกิจการในพื้นที่ทั่วไปจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี (เฉพาะรายได้จากค่าเช่าที่พักอาศัย และกำหนดวงเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จะได้รับยกเว้นไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินลงทุน โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนตามหลักเกณฑ์) และหากตั้งใน 10 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10 จังหวัด จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 6 ปีโดยผู้ขอส่งเสริมจะต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2562

ที่ประชุมยังได้พิจารณาแนวทางส่งเสริมให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่ทันสมัย เพื่อพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค โดยสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce และ E-Logistics รวมถึงการปรับเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าและการลงทุน จึงเปิดให้ส่งเสริม “กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบอัจฉริยะ” และกำหนดให้เป็นหนึ่งในกิจการเป้าหมายที่จะได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติม

ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษเขตส่งเสริม เพื่อกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายและนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม อาทิ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี (กำหนดวงเงินสูงสุดที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับร้อยละ100 ของเงินลงทุน โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) สำหรับรายได้จากการให้บริการกระจายสินค้าระหว่างประเทศ

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

ทั้งนี้ กำหนดให้รูปแบบการลงทุนจะต้องมีการจ้างบุคลากรไทย ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยตรง เช่น วิศวกรรมศาสตร์ ปัญญาประดิษฐ์ และData Science เป็นต้น และต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) หรือจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Digital Transactions โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงและดำเนินการในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังต้องจัดให้มีการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เช่น Big Data และData Analyticsเป็นต้น ทั้งนี้ ต้องมีการวิจัยและพัฒนาหรือร่วมมือในโครงการวิจัยและพัฒนากับสถาบันการศึกษาหรือสถาบันวิจัยของประเทศไทย เป็นต้น

อีกทั้งยังได้พิจารณาขยายระยะเวลาการขอรับสิทธิประโยชน์ ตามนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ 10 จังหวัด (ตาก ตราด มุกดาหาร สระแก้ว สงขลา เชียงราย หนองคาย นครพนม กาญจนบุรีและนราธิวาส) ออกไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 (เดิมสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2561) เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนหลายราย กำลังจะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ในหลายเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จึงควรขยายเวลาเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน ทั้งกลุ่มที่จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่และกลุ่มที่จะเข้าไปลงทุนตั้งกิจการ

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว