“อาม่า มารีน” ลุยขยายกองเรือ รับตลาดปาล์มน้ำมันโลกโต

21 ก.พ. 2561 | 06:50 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“อาม่า มารีน” โชว์ผลงานปี 60  กำไรสุทธิ 253.15 ล้านบาท รายได้ 1,500.65 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์  เตรียมขยายกองเรือเพิ่ม รองรับความต้องการปาล์มน้ำมันทั่วโลกปี 61 โต 4 ล้านตัน วางเป้าปี 61 โตต่อเนื่อง 30%

[caption id="attachment_261483" align="aligncenter" width="503"] นายพิศาล รัชกิจประการ นายพิศาล รัชกิจประการ[/caption]

นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯประจำปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 253.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.96 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 71.99% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.19 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 1,500.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 536.20 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 55.60% เมื่อเทียบกับผลประกอบการประจำปี 2559 ที่มีรายได้รวมจากการให้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 964.45 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการทำกำไรสุทธิ และรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

โดยการเพิ่มขึ้นของทั้งกำไรสุทธิ และรายได้ของบริษัทฯ เป็นผลมาจากการขยายกองเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมีเพิ่มจำนวน 3 ลำ และขายเรือจำนวน 1 ลำ คือเรือญาณี ทำให้ ณ สิ้นปี 2560 บริษัทฯมีเรือทั้งสิ้นจำนวน 10 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวม 82,981 เดทเวทตัน  และการเพิ่มรถบรรทุกขนส่งน้ำมันจาก 100 คัน เป็น 150 คัน รวมถึงบริษัทฯได้ดำเนินการปรับขึ้นค่าระวางเรือให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ในขณะที่ภายในปี 2561 บริษัทฯมีแผนที่จะขยายกองเรือเพิ่มขึ้นอีก 2 ลำ น้ำหนักบรรทุกลำละ 13,000 เดทเวทตัน ด้วยงบลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท ส่งผลให้กองเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทฯจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 10 ลำเป็น 12 ลำ และมีน้ำหนักบรรทุกรวม เพิ่มขึ้นจาก 82,981 เดทเวทตัน เป็น 108,981 เดทเวทตัน เพื่อรองรับความต้องการการส่งออกปาล์มน้ำมันจากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็น 85% ของผู้ส่งออกปาล์มน้ำมันทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 4 ล้านตัน ภายในปี 2561 ตามความต้องการอุปโภค และบริโภคของตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทฯคาดว่ารายได้ในปี 2561 จะเติบโตต่อเนื่องที่ระดับ 30%

“จากข้อมูลของ Gandling Weather ตลาดของปาล์มน้ำมันโลกจะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราเตรียมแผนที่จะเพิ่มกองเรือเพื่อรองรับความต้องการส่งออกปาล์มน้ำมันจากประเทศผู้ส่งออกหลักของโลกที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นต้นทุนหลักของเราจะไม่กระทบกับการดำเนินงานเนื่องจากเรามีการปรับขึ้นค่าระวางเรือให้เพิ่มสูงขึ้นสอดคล้องกับราคาน้ำมัน ทำให้เราคาดว่าในปีหน้ารายได้ของเราจะเติบโตอย่างต่อเนื่องอีก 30% จากการเดินหน้าขยายกองเรืออีก 2 ลำ ทำให้น้ำหนักบรรทุกรวมของกองเรือจะมากกว่า 100,000 เดทเวทตัน รวมถึงขยายธุรกิจในส่วนอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง” นายพิศาลกล่าว ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว