โซนี่บูมหนังภูธร หวังรายได้800ล.

22 ก.พ. 2561 | 04:43 น.
ค่ายโรงหนังขยายตลาดออกต่างจังหวัด ดันตลาดภาพยนตร์เติบโต 3-4% จากปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 3,700 ล้าน โซนี่ พิคเจอร์ส ขนหนัง 9 เรื่องเข้าฉายหวังทำยอดรายได้ 500 ล้าน เล็งปีหน้าขนทัพหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉาย ดันรายได้กลับมาทะลุ 800 ล้าน

นายรชต ธีระบุตร กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงทิศทางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปี 2561 ว่า มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นในอัตรา 3-4% จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 3,700 ล้านบาท แบ่งเป็นภาพยนตร์จากฮอลลีวูด สัดส่วน 87% ภาพยนตร์ไทย สัดส่วน 10% และภาพยนตร์ต่างประเทศอื่นๆ อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย สัดส่วน 3%

[caption id="attachment_260258" align="aligncenter" width="318"] รชต ธีระบุตร รชต ธีระบุตร[/caption]

ปัจจัยที่จะผลักดันให้มูลค่าตลาดภาพยนตร์ที่ฉายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น มาจากการขยายตัวของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ ที่มุ่งไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่ปัจจุบันมีโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัด 630 โรง ในกรุงเทพฯมี 569 โรง โดยปัจจุบันประเทศไทยมี 66 จังหวัดที่มีโรงภาพยนตร์ พื้นที่ภาคเหนือมีการขยายตัวของโรงภาพยนตร์มากที่สุด

“แนวโน้มการเติบโตของตลาดภาพยนตร์ปีนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯอาจจะทรงตัว แต่คงไปเติบโตในต่างจังหวัดแทน โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาตลาดต่างจังหวัดเติบโตถึง 7% เพราะมีการขยายตัวของโรงหนังจำนวนมาก ตามการขยายตัวของผู้ประกอบการศูนย์การค้าและกลุ่มค้าปลีกต่างๆ ส่วนปีที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพฯและเชียงใหม่ ติดลบ 3% ส่วนปีนี้จำนวนคนดูยังคงอยู่ในอัตราใกล้เคียงปีที่ผ่านมาที่มี 27.5 ล้านคน”

ส่วนราคาตั๋วหนังปีที่ผ่านมามีราคาเฉลี่ย 156 บาทลดลงประมาณ 3% จากก่อนหน้ามีราคา 161 บาท ซึ่งเป็นผลจากการที่โรงภาพยนตร์พยายามกระตุ้นตลาด ด้วยการจัดแคมเปญและโปรโมชันต่างๆ สำหรับในปีนี้คาดว่าราคาตั๋วอาจจะมีราคาเท่าเดิม หรืออาจจะลดลงเล็กน้อย ซึ่งราคาตั๋วแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน โดยในกรุงเทพฯ จะมีราคาเฉลี่ย 150 บาท ส่วนต่างจังหวัดจะมีราคาตั้งแต่ 70-120 บาท

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

นายรชต กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมามีภาพยนตร์ที่เข้าฉายประมาณ 171 เรื่อง ซึ่งมีปริมาณดังกล่าวต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว ส่วนในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในอัตราใกล้เคียงกัน โดยในส่วนของบริษัทปีนี้เตรียมภาพยนตร์ใหม่เข้าฉาย 9 เรื่อง ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่เข้าฉายถึง 19 เรื่อง ทำให้ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนปีที่ผ่านมาทำรายได้รวม 805 ล้านบาท ถือเป็นสถิติสูงที่สุดเท่าที่โซนี่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเป็นผลจากการมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ได้รับความนิยมจนทำรายได้ได้สูง อาทิ สไปเดอร์แมน : โฮมคัมมิ่ง ทำรายได้ 270 ล้านบาท จูแมนจี้ เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ ทำรายได้ 170 ล้านบาท เป็นต้น

“ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีจำนวนหนังเข้าฉายน้อยกว่า และไม่ได้มีหนังฟอร์มยักษ์เหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีหน้าคาดว่ารายได้จะกลับมาใกล้เคียงหรือมากกว่า 800 ล้านบาท เพราะมีโปรแกรมหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง น่าจะทำให้มีรายได้เติบโต อาทิ นางฟ้าชาลี สไปเดอร์แมน : โฮมคัมมิ่ง ภาค 2 และหนังจากมาร์เวล เป็นต้น”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว