ซูซูกิ สวิฟท์ โฉมใหม่ขับสนุก ลุกนั่งสบายแล้วเงินจะหาย 6 แสน

22 ก.พ. 2561 | 04:00 น.
ไม่ต้องไหว้ครูกันนานครับ สำหรับ “ซูซูกิ” ที่คึกคักขยับตัวเร็วตั้งแต่ต้นปีด้วยการเปิดตัว “สวิฟท์ โฉมใหม่” (All New Suzuki Swift) ซึ่งจริงๆเขาก็พยายามสร้างกระแสประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า อีโคคาร์รุ่นนี้พร้อมเผยโฉมให้เห็นตัวเป็นๆ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561

ND4_1920 ND4_2318 …เมื่อโฉมเก่าอัดแคมเปญหนักๆ เคลียร์สต๊อกหมด ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด เพราะดีลเลอร์ก็อยากขายรถใหม่ใจจะขาด
“สวิฟท์ โฉมใหม่” ตบเท้าเข้าโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ตามมิตซูบิชิ มิราจ/แอททราจ และมาสด้า 2 ซึ่งซูซูกิผ่านฉลุยทั้งเรื่องเงินลงทุนและทำรถได้ตามเงื่อนไขการปล่อยไอเสีย ตัวเลขอัตราบริโภคนํ้ามันระบบความปลอดภัยอันเข้มงวด พร้อมแบ่งขาย 4 รุ่นย่อย ราคา 4.99-6.29 แสนบาท (เดิมอีโคคาร์เฟส 2 เสียภาษีสรรพ สามิต 14%แต่การปรับวิธีคิด ภาษีใหม่ตามราคาขายปลีกเมื่อปีที่แล้วทำให้อัตราดังกล่าวลดลงเหลือ 12% เนื่องจากฐานราคาที่นำมาคิดสูงขึ้น)
ด้านวิศวกรรมโครง สร้าง ของ “สวิฟท์ โฉมใหม่” ถือว่าน่าสนใจครับ เพราะหลักๆ ต้องคำนึงถึงการรีดนํ้าหนักจากตัวรถระดับซับคอมแพ็กต์ เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ มุ่งสู่เป้าหมายกินนํ้ามันน้อยกว่า 4.3 ลิตร/100 กม.(23.25 กม./ลิตร) และการปล่อยไอเสียตํ่ากว่า 100 กรัม/กม.

ด้วยการใช้แพลตฟอร์มใหม่ “ฮาร์ทเทค” (Heartect) นํ้าหนักเบากว่าเดิมแต่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ยังถูกใช้ในเก๋งรุ่น “บาลีโน” (Baleno) และในอนาคตจะใช้เป็นพื้นฐานการพัฒนาเก๋งซีดาน และครอสโอเวอร์รุ่นอื่นๆ ของซูซูกิต่อไป MP33-3341-5A

ขณะที่มิติตัวถังยาว 3,840 มม. (ลดลง10 มม.) กว้าง 1,735 มม. (เพิ่มขึ้น 40 มม.) สูง1,495 มม. (เตี้ยลง 15 มม.) ระยะฐานล้อ 2,450 มม.(เพิ่มขึ้น 20 มม.) เหล่านี้มีส่วนช่วยให้นํ้าหนักรถโดยรวมหายไปถึง 65-85 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม

นอกจากนี้ เครื่องยนต์เบนซินใหม่ที่เปลี่ยนจากรหัส K12B เป็น K12M เป็นบล็อก4 สูบ ขนาดลดลงจาก 1,242 ซีซี เป็น 1,197 ซีซี (รุ่นเดิมซูซูกิชอบเคลมว่าเป็นเครื่อง ยนต์ขนาด 1.25 ลิตร แต่รุ่นใหม่คงต้องเหลือ 1.2 ลิตร กลมๆ) ยังมาพร้อมระบบวาล์วแปรผันฝั่งไอดีและ
ไอเสีย แต่จะเพิ่มระบบหัวฉีดคู่ “ดูอัลเจ็ต” (มีหัวฉีด 2 ตัว ฉีดนํ้ามันผสมกับอากาศก่อนถึงห้องเผาไหม้) และเพื่อการันตีว่าผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษแน่ๆ ซูซูกิยังใส่ EGR วาล์ว ดึงไอเสียวนกลับไปใช้ใหม่ และระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดหยุดนิ่ง มาให้อีกด้วย

สุดท้ายเครื่องยนต์นี้เมื่อเทียบกับของเดิม จะให้ประสิทธิผลลดลงจาก 91 แรงม้า เป็น 83 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดจาก 118 นิวตัน-เมตร เหลือ 108 นิวตัน-เมตร (แต่มาในรอบตํ่าลง) พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ที่ปรับปรุงใหม่แต่เซตอัตราทดไว้เท่ากับรุ่นเดิม

ND4_2323 ND4_2322 แม้ตามสเปกจะเห็นว่าแรงม้าลดลง แต่เมื่อลองขับจริงผมรู้สึกว่าการตอบสนองเนียนกว่าโฉมเดิมพอสมควรครับ(คงเป็นเพราะนํ้าหนักตัวที่ลดลงไปด้วย) จังหวะออกตัวดี ส่วนย่านความเร็วกลางๆยังพุ่งพลิ้ว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.อยู่ประมาณ 14 วินาที การทดสอบนั่งกันไป 2 คนกับผู้สื่อข่าวจาก “เมเนเจอร์ออนไลน์” ให้ความเห็นตรงกันว่าสมรรถนะเครื่องยนต์กับระบบส่งกำลัง ยอดเยี่ยมไม่แพ้อีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ในตลาด

ส่วนความหนึบแน่นขับสนุกยังได้มาจากโครงสร้างใหม่ ที่มิติตัวถังมีความกว้างมากขึ้น และเตี้ยลงทั้งวัดจากหลังคาและจุดตํ่าสุด
จากพื้น

ช่วงล่างพยายามทำให้นุ่มนวลลงประกบกับล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ยางบริดจสโตน อีโคเปีย 185/55 R16 สอด คล้องกับการควบคุมผ่านพวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียน ผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่นํ้าหนักและอัตราทดแปรผันกับความเร็วและองศาการเลี้ยว

โดยพวงมาลัยที่ออกแบบสไตล์ตูดตัดหรือรูปตัวดี รุ่น GLX หุ้มหนังจับถนัดมือ พร้อมตอบสนองการสั่งงานแม่นยำ บังคับได้สบายๆ ขณะเดียวกันยังนิ่งพอสมควรเมื่อขับความเร็วสูง ส่วนหน้าที่ชะลอความเร็วสวิฟท์ โฉมใหม่ รุ่น GLX จัดดิสก์เบรก 4 ล้อมาให้ด้วย

MP33-3341-4A MP33-3341-3A ND5_4796 ND5_4814 ND5_4817 ในตำแหน่งคนขับ ผมชอบทัศนวิสัยด้านหน้ากว้างใช้ได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ทั้งยกขึ้น-ลง และดึงเข้า-ออกหาตัวช่วยให้ท่านั่งขยับขยายได้ลงตัวมากขึ้น ส่วนการเป็นผู้นั่งด้านหลังระยะห่างช่วงขาถึงเบาะหน้า (Leg room)ยังหลวมๆ ส่วนระยะหัว(Head room) เหลือเพียบ

รุ่น GLX ที่ผมได้ลองขับ ราคาต่างจาก GLX Navi 2 หมื่นบาท ซึ่งรูปลักษณ์ภาย นอกเหมือนกันหมดทุกออพชัน ต่างกันแค่หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth รองรับ Apple CarPlay ซึ่งหน้าจอชุดนี้ช่วยให้บรรยากาศภายในของ
สวิฟท์ GLX Navi ราคา 6.29 แสนบาทดูดีขึ้นเยอะ

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามัน จากการขับลงเขาแล้ววิ่งทางราบ วกกลับมาขึ้นเขาทางเดิม ระยะทางประมาณ 80 กม.ขับสบายๆ รถไม่ค่อย ติด เห็นตัวเลขแสดงที่หน้าจอประมาณ 18 กม./ลิตร
แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2
ND4_2242 MP33-3341-2A MP33-3341-6A สำหรับ “ซูซูกิ สวิฟท์” ต้องเจอกับคู่แข่งหลายรุ่น รวมถึงเจ้าตลาดอย่าง “โตโยต้า ยาริส” ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ช่วงไตรมาส3 ปีที่แล้ว ศึกหนักเอาการครับแต่ยังตั้งเป้าหมายการขายในปีนี้ 15,700 คัน ดังนั้นถ้าเริ่มส่งมอบรถอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนมีนาคม รวมเวลา 10 เดือน ก็ขายเฉลี่ยเดือนละ 1,500-1,600 คัน

รวบรัดตัดความ...สวิฟท์ โฉมใหม่ ถือเป็นการพัฒนาที่น่าชื่นชม และทำให้เรามีทางเลือกกับเก๋งเล็กคุณภาพดี ราคาเหมาะสม โดดเด่นด้วยช่วงล่างและการควบคุม อัตราเร่งไม่ขี้เหร่ หรือไม่ด้อยกว่าอีโคคาร์ (เครื่องยนต์เบนซิน) รุ่นไหนในตลาด ซึ่งใครได้ลองขับแบบจริงๆ จังๆแล้ว ใจไม่นิ่ง สติไม่แข็งพอมีโอกาสสูงที่จะเสียเงินราวๆ 6 แสนบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,341 วันที่ 18 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว