ต้นทุนวัตถุดิบพุ่ง ข้าวถุงจ่อขึ้นราคา

10 ก.พ. 2561 | 06:32 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ตลาดข้าวถุง 2.2 หมื่นล้านระอุ บิ๊กแบรนด์ส่งสัญญาณขยับขึ้นราคาไตรมาส 2 ตามราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น “ข้าวมาบุญครอง” หนีแข่งเดือด ดันส่งออกเพิ่มเป็น 20%

นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวถุงแบรนด์ “ข้าวมาบุญครอง” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงแนวโน้มการแข่งขันตลาดข้าวสารบรรจุถุงในประเทศว่า คาดในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ผู้ประกอบการจะทยอยปรับราคาตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเฉลี่ยจะอยู่ที่ 200 บาทต่อข้าวถุงขนาด 5 กิโลกรัม(กก.) หรือ 40 บาทต่อกก. จากปีที่แล้วเฉลี่ย 170 บาทต่อถุง 5 กก. หรือ 35 บาทต่อ กก. ซึ่งราคาจะแตกต่างกันในแต่ละแบรนด์จากมีการแข่งขันด้านราคา

[caption id="attachment_189327" align="aligncenter" width="366"] สมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) สมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน)[/caption]

“ตัวอย่างต้นทุนวัตถุดิบข้าวสารหอมมะลิเวลานี้ขยับขึ้นมาเป็น 32 บาทต่อกก. จากปีที่แล้ว 22 บาทต่อกก. ปรับขึ้นมาเกือบ 50% ส่วนข้าวขาวก็ปรับขึ้นมาเช่นเดียวกัน ขณะที่อีกด้านหนึ่งผู้ประกอบการมีต้นทุนด้านค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น ตามอัตราค่าจ้างใหม่ ต่างจากปีที่ผ่านมาต้นทุนข้าวสารถูกกว่าผู้ค้าแข่งกันลดราคาเพื่อชิงลูกค้า และไม่กล้าปรับขึ้นราคา ทั้งนี้คาดมูลค่าตลาดข้าวถุงในประเทศปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% หรือมีมูลค่าประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่กว่า 2.2 หมื่นล้านบาท”

ในส่วนของบริษัทปทุมไรซฯ ได้มีการปรับตัวสร้างตลาดใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการข้าวที่มีคุณภาพ มีคุณค่าทางอาหารและง่ายต่อการรับประทาน จึงได้พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพหรือซีเรียล เช่น ข้าวผสมธัญพืช เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีความเร่งรีบในตอนเช้า โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพไว้ที่ 5% หรือ 100 ล้านบาท

AW_Online-03

ส่วนตลาดข้าวถุงของบริษัทตั้งเป้ายอดขายขยายตัวด้านปริมาณในปีนี้ที่ 15% สูงขึ้นจากปี 2560 ที่ขยายตัวในแง่ปริมาณเพียง 5% ด้านตลาดส่งออกของบริษัทในปีที่ผ่านมามีสัดส่วน 10% ของปริมาณรวม ปี 2561 ตั้งเป้าสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 20% หรือมีปริมาณ 4 หมื่นตัน โดยตลาดสำคัญที่สามารถรองรับปริมาณการส่งออกขยายตัวคือ อินเดีย ในสินค้า ข้าวกล้อง ข้าวอินทรีย์ และข้าวไรซ์เบอร์รี่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว