แนะจัดพอร์ตRMFลุยนอก ชูตลาดหุ้นอินเดีย-จีน หลังหุ้นไทยจ่อ1,700จุด

08 ต.ค. 2560 | 12:53 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กูรูแนะกระจายลงทุน RMF หลายสินทรัพย์ ลดความเสี่ยงหุ้นไทยขึ้นแรง “ทิสโก้” ชู จีน-อินเดีย-เฮลธ์แคร์ ปัจจัยหนุนหุ้นไปต่อ “กรุงศรี” ออก 4 กองทุนใหม่ รับกระแสเทคโนโลยีทั่วโลกมาแรง-เกรทเทอร์ไชน่าแกร่ง พร้อมหุ้นไทยเด่น

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล นักวิเคราะห์กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟิลลิปจำกัดเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ของปีอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีเข้าใกล้ 1,700 จุดอาจทำให้นักลงทุนกังวล สำหรับนักลงทุนที่สนใจกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งมีทางเลือกลงทุนได้มากกว่ากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) แนะนำให้จัดพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ

MP19-3273-a สำหรับพอร์ตของนักลงทุนที่รับความเสี่ยงระดับปานกลางควรลงทุนหุ้น 50% แบ่งเป็นหุ้นไทย 25% และหุ้นต่างประเทศ 25% ซึ่งแนะนำจีน ซึ่งเศรษฐกิจมีแนวโน้มการเติบโตดีและธีมลงทุนในหุ้นเฮลธ์แคร์รับแนวโน้มสังคมสูงวัยเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่วน 50% ที่เหลือลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งอาจแบ่งลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสมํ่าเสมอ คาดผลตอบแทนพอร์ตประมาณ 6-7% ต่อปี

“นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงก็ปรับเพิ่มสัดส่วนหุ้นมากขึ้นและลดตราสารหนี้ลง ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยก็ปรับลดสัดส่วนหุ้นลง เพื่อให้เหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้” นายสานุพงศ์ กล่าว

MP19-3303-A นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนให้ความสนใจกองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศเพราะนอกจากช่วยกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศแล้วยังช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุน ซึ่งมองว่าแม้ที่ผ่านมาตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าหุ้นไทย แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนในแต่ละประเทศอยู่

[caption id="attachment_136139" align="aligncenter" width="503"] นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ[/caption]

“ตลาดหุ้นจีนเริ่มมีเสถียรภาพและคาดว่าจะมีเงินลงทุนต่างชาติเข้าไปมากขึ้น เพราะถูกนับเข้าไปอยู่ในดัชนี MSCI เป็นต้น ขณะที่หุ้นที่อยู่ในกระแสโลกอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ก็ยังน่าสนใจ อย่างไรก็ตามการลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยแนะนำกองทุนทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก” นายสาห์รัช กล่าว

นางสาวศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรีฯ เปิดเผยว่า บริษัทเปิดขายกองทุน LTF-RMF ใหม่พร้อมกัน 5 กองทุน เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 3-10 ตุลาคม 2560 โดยออกกองทุน RMF ใหม่ 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFSTARRMF) ลงทุนหุ้นไทยหลากหลายไม่จำกัดประเภทหุ้นเช่นเดียวกับกองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์ปันผล (KFTSTAR-D) และยังออกกองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์หุ้นระยะยาว (KFSTARLTF) ด้วย

[caption id="attachment_136310" align="aligncenter" width="335"] น.ส.ศิริพร สินาเจริญ น.ส.ศิริพร สินาเจริญ[/caption]

นอกจากนี้ยังออกกองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดี๊ดีเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFHAPPYRMF) มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงศรีชีวิตดี๊ดี (KFHAPPY) มีสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพไม่น้อยกว่า 75% และลงทุนไม่เกิน25% ในหุ้นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITsและกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

ขณะเดียวกันกระแสเทคโนโลยีกำลังมาแรงทั่วโลกจึงออกกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGTECHRMF) เน้นลงทุนหุ้นเทคโนโลยีใหม่ผ่านกองทุนหลัก T.Rowe Price Funds SICAV-Global Technology Equity Fund และกองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFCHINARMF) เพิ่มโอกาสเข้าถึง 3 ตลาดสำคัญ ได้แก่ ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และไต้หวันที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

“นักลงทุนควรพิจารณากองทุนที่เหมาะสมกับตัวองและกระจายการลงทุนในกองทุนหลากหลายรูปแบบ หลายนโยบายการลงทุนเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวมพร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว” นางสาวศิริพร กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,303 วันที่ 8 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว