ทาทาสตีลเปิดนวัตกรรมเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัดเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง

09 ก.ย. 2560 | 08:59 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดโรงงาน พาชมนวัตกรรมเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง และชมการทดสอบเหล็กเส้นคุณภาพสูง เหล็กเส้นข้ออ้อย ทาทา ทิสคอน เอส ซุปเปอร์ ดั๊กไทร์ เหล็กต้านแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว

tata1

นายวันเลิศ การวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทเปิดให้เข้าชมโรงงาน เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มทาทา สตีล (ประเทศไทย) ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยโรงงานแห่งนี้ได้ติดตั้งเครื่องจักรเพื่อผลิตเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND) สามารถตัดและดัดเหล็กเส้นก่อสร้างได้ตามขนาด ความยาว และองศา ตรงตามแบบอย่างมีคุณภาพ เป็นการเพิ่มมูลค่างานและโครงการ

บริการเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND) ใช้เหล็กเส้นคุณภาพสูง ทาทา ทิสคอน ที่ผ่านระบบ Thermo Mechanical Treatment (T.M.T) ที่พ่นสเปรย์ละอองน้ำแรงดันสูงในระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการจัดโครงสร้างภายในของเนื้อเหล็ก (Micro Structure) จนได้คุณสมบัติเหล็กที่มีความแข็งแกร่งในส่วนรอบนอก และแกนเหล็กด้านในมีความยืดหยุ่นสูง ก่อให้เกิดเหล็กชั้นคุณภาพที่สูงขึ้น มีความแข็งแกร่งสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม  สามารถดัดเหล็กได้ในรัศมีแคบ และไม่ปริแตกหักง่าย นำมาทำเป็นเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND)

tata

ปัจจุบันบริษัทมีเครื่องจักรสำหรับผลิตเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND) ติดตั้ง ณ โรงงาน เอ็น.ที.เอส สตีลกรุ๊ป มีกำลังการผลิต 7,000 ตัน/เดือน และ โรงงานเหล็กก่อสร้างสยาม ที่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง กำลังการผลิต 3,000 ตัน/เดือน รวมแล้วปัจจุบันกลุ่มทาทา สตีล (ประเทศไทย) มีกำลังการผลิตสำหรับเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND) มากกว่า 10,000 ตัน/เดือน และกำลังพิจารณาขยายกำลังการผลิตเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND) เพิ่มเติมต่อไป

tata2

ประโยชน์ของการใช้บริการเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND)  ป้องกันการสูญเสียเศษเหล็กที่เหลือจากการตัดและดัดเหล็กหน้างาน   ป้องกันปัญหาเหล็กสูญหาย และการสั่งเหล็กเพิ่มจากที่ต้องการใช้จริงมาเก็บไว้ที่หน่วยงาน   ประหยัดต้นทุน ไม่ต้องเช่าพื้นที่กองเก็บเหล็กไว้สำหรับการตัดและดัด ไม่ต้องจ้างแรงงานเพิ่ม  ประหยัดค่าขนส่ง หากต้องสั่งเหล็กเส้นเพิ่มจากที่วางแผนการใช้งานจริง   ประหยัดเวลา ในการให้แรงงาน ทำการตัดและดัดเหล็กที่หน่วยงาน  เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้แรงงานที่มีอยู่ให้ทำงานในส่วนอื่น ลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในหน่วยงานก่อสร้าง

tata3

นอกจากเหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (CUT & BEND) แล้ว ทางบริษัทยังมีบริการเสริมครบวงจร (One Stop Service) งานเหล็กเส้นด้วยข้อต่อเหล็ก ด้วยบริการจัดทำเกลียวที่ปลายเหล็กเส้น สำหรับการใช้เหล็กเส้นข้อต่อเหล็ก Coupler เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดทำโครงสร้างเหล็กก่อสร้างได้มากขึ้นโดยเหล็กเส้นข้อต่อ Coupler ใช้ต่อความยาวเหล็กเส้นข้ออ้อยแทนการทาบ ซึ่งสามารถใช้ในงานก่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กทุกประเภท เหล็กเส้นข้อต่อนี้ช่วยเสริมเพิ่มความยาวของเหล็กโดยยังคงคุณสมบัติให้เหล็กทั้งเส้นมีความมั่นคงแข็งแรงรับน้ำหนักได้เหมือนเดิม

tata6

ทั้งชมการทดสอบความแข็งแรงและความเหนียวของ เหล็กเส้นข้ออ้อย ทาทา ทิสคอน เอส ซุปเปอร์ ดั๊กไทร์ เหล็กต้านแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว หรือ SD40 S  ซึ่งทาทา สตีล (ประเทศไทย) ได้พัฒนาขึ้นให้มีคุณสมบัติเนื้อเหล็กภายในเหนียวเป็นพิเศษ  ผ่านกระบวนการผลิตที่ควบคุมอัตโนมัติ ทำให้ได้คุณสมบัติเนื้อเหล็กภายในให้เหนียวเป็นพิเศษ ทำให้ดูดซับพลังงานได้มากขึ้นและรับแรงดึงได้ดี ลดความเสี่ยงจากการขาดของเหล็กเส้นที่เป็นสาเหตุให้โครงสร้างอาคารพังทลายอย่างฉับพลันได้  และด้วยคุณสมบัติที่เหนียวกว่ามาตรฐาน มอก.  จึงช่วยชะลอการพังทลายของอาคารและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้น

tata4

สำหรับภาพรวมธุรกิจของทาทา สตีลในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเหล็กอยู่ที่ 1.2 ล้านตัน และคาดว่าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 (ก.ค.-ก.ย.2560) ยอดขายจะแตะระดับ 3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 ที่อยู่ระดับ 2.76 แสนตัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเริ่มดำเนินการในช่วง ต.ค.-ธ.ค.นี้ จะช่วยหนุนยอดขายเหล็กเพิ่มขึ้น จากนี้บริษัทฯ จะพิจารณาลงทุน 75-85 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตรองรับงานภาครัฐในช่วงปลายปีนี้

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว