ขณะที่รัฐเท็กซัสยังคงประสบภัยน้ำท่วมจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ที่รัฐแคลิฟอร์เนียกลับต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 44.4 องศาเซลเซียส กรมอุตุฯสหรัฐออกโรงเตือนประชาชนเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
[caption id="attachment_202595" align="aligncenter" width="503"]
ภาพข่าวซินหัว[/caption]
อุณหภูมิสูงสุดที่กว่า 44 องศาเซลเซียสนี้ วัดได้ที่เขตซาน เฟอร์นันโด แวลลีย์ในลอสแองเจลีส เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อการกระหน่ำใช้เครื่องปรับอากาศในเวลาเดียวกันของประชาชนในพื้นที่ทำให้เกิดไฟดับเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 110,000 คน
สำนักงานบริการด้านสภาวะอากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศร้อนจัดเมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนในเขตที่มีอุณหภูมิสูงหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง คาดหมายว่าสภาพอากาศร้อนจัดดังกล่าวจะยังคงมีต่อไปตลอดทั้งสัปดาห์นี้
เมื่อต้องพบเจอกับอากาศร้อนจัด ผู้คนในหลายพื้นที่ได้หันมาใช้เครื่องปรับอากาศในเวลาพร้อมๆกัน ทำให้เกิดไฟดับส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตซานเฟอร์นันโดแวลลีย์ประมาณ 3,500 คน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงพื้นที่ไฟดับก็ครอบคลุมประชากรราว 100,000 คน หน่วยงานบริการด้านกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาในพื้นที่ต้องเร่งแก้ไขตลอดทั้งคืนกระทั่งสามารถให้บริการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อีกครั้งในเวลา 11.00 น. ของวันใหม่
รายงานข่าวระบุว่านับเป็นครั้งสองของปีนี้ ที่ประชาชนในเขตรอบๆเมืองลอสแองเจลิสประสบภาวะไฟดับและไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืนอันเป็นผลมาจากอุณหภูมิของอากาศที่ร้อนจัด ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประชากรได้รับผลกระทบถึง 140,000 คน