พาณิชย์ ผนึกสภาเกษตรกร ดันราคาปาล์มตก

20 มิ.ย. 2560 | 09:46 น.
 

สภาเกษตรกรแห่งชาติ วอนเกษตร เลื่อนวันตัดผลปาล์ม ออกไปหลัง 5-6 วัน หลังเดือนรอมฎอนราคายางดีดขึ้น ด้านพาณิชย์ ขอความร่วมมือเอกชนเก็บสต็อกไบโอดีเซล เพิ่มเป็น 90 ล้านลิตร  พร้อมประกาศราคาแนะนำปาล์ม 4.30  บาทต่อ. มีผลบังคับใช้ดีเดย์ 21 มิ.ย.60

[caption id="attachment_165912" align="aligncenter" width="374"] นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์[/caption]

นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า  ขอความร่วมมือให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเลื่อนการตัดปาล์มน้ำมันไปอีก ประมาณ 5-6 วัน หลังวันออกบวช หรือวันตรุษอีดิ้ลฟิตริ (วันสิ้นสุดรอมฏอน) แล้ว คาดว่าการใช้น้ำมันปาล์มในการบริโภคจะกลับมาเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม ค่อยทยอยตัดปาล์มคุณภาพสูงส่งเข้าโรงงาน เพื่อลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์ม เป็นการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม และราคาปาล์มน้ำมันของเกษตรกรด้วย

ทั้งนี้ ผลสรุปประชุมกำหนดราคารับซื้อผลปาล์มสด ได้ดังนี้ อัตราน้ำมันร้อยละ 22 กิโลกรัมละ 5.50 บาท อัตราน้ำมันร้อยละ 21 กิโลกรัมละ 5.20 บาท อัตราน้ำมันร้อยละ 20 กิโลกรัมละ 4.90 บาท อัตราน้ำมันร้อยละ 19 กิโลกรัมละ 4.60 บาท อัตราน้ำมันร้อยละ 18 กิโลกรัมละ 4.30 บาท

palm-1464660_960_720

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค  อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการปาล์มน้ำมัน ว่าได้ประชุมหารือกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สภาเกษตรกรฯ  เบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันถึงแนวทางในการรักษาเสถียรภาพปาล์มน้ำมัน  โดยกรมฯขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการค้าน้ำมันในการเก็บสต็อกน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านลิตร จากเดิม50ล้านลิตร ไม่มีระยะเวลากำหนดในการเก็บสต็อก เนื่องจากต้องการดูดซับพราย ผลผลิตออกจากตลาด

ประกอบกับช่วงขณะนี้ราคาผลปาล์มยังไม่สูงมากเหมาะสมที่ผู้ค้าน้ำมันจะสามารถดึงซัพพรายออกจากตลาดได้ และเชื่อว่าหลังจากวันที่ 25  มิถุนายน 2560  ซึ่งจะครบเดือนรอมฎอนการบริโภคน้ำมันก็น่าจะเพิ่มขึ้น  อีกทั้ง ผลผลิตก็จะลดลงด้วย  ก็จะทำให้ผลผลิต และราคาปาล์มน้ำมันในตลาดเสถียรภาพมากขึ้น    นอกจากนี้กรมประกาศราคาแนะนำผลปาล์มอยู่ที่ 4.30  บาทต่อกิโลกรัมที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันอยู่ที่ 17 %   โดยจะประกาศตั้งแต่วันที่ 21  มิถุนายน 2560  ซึ่งราคาผลปาล์ม ณ  วันที่ 20 มิถุนายน 2560  อยู่ที่กิโลกรัมละ 4.10 บาท  โดยราคาดังกล่าวนี้  เป็นราคาที่เหมาะสมกับต้นทุนของเกษตรกร  และเกษตรกรก็พอใจในระดับราคาดังกล่าว

“ทั้งนี้ปริมาณปาล์มน้ำมันที่ดูดซัพพรายออกจากตลาด ปริมาณ 90  ล้านลิตร  คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ (CPO)  อยู่ที่ 76,000  ตัน  ขณะที่การใช้ไบโอดีเซลที่ใช้ในปัจจุบันตามการประกาศของรัฐบาลยังคงใช้อยู่ที่ บี7  ซึ้งใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  ซึ่งหลายหน่วยงานก็ยังมองว่ายังไม่มีปัจจัยที่จะต้องปรับเปลี่ยน การใช้ไปโอดีเซล เพิ่มขึ้นหรือลดลง  โดยยังมองว่าการใช้ บี 7  ยังเป็นอัตราที่เหมาะสมกับการใช้งานด้านพลังงานในปัจจุบันอยู่  ทั้งนี้ มาตรการที่ออกมาคาดการณ์ว่าจะช่วยให้ราคาผลปาล์มสดของเกษตรกรมีราคาดีขึ้น และภายใน 1 สัปดาห์จากนี้ปริมาณผลปาล์มสดจะเริ่มลดลงด้วย”นางนันทวัลย์กล่าว

สำหรับสถานการณ์สต็อกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศ  ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 370,000  ตัน  ขณะที่ราคา CPO  อยู่ที่ 23 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งใกล้เคียงกับทางมาเลเซียที่กิโลกรัม 21.65 บาท  แม้ว่าไทยยังไม่มีการส่งออกแต่ก็มีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการส่งออก ส่วนการคาดการณ์ผลผลิตผลปาล์มสด  ทั้งปี 2560  อยู่ที่  11.7 ล้านตันเพิ่มขึ้นจากปีก่อน  6.4%    โดยคิดเป็นผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบ  1.99  ล้านตัน คาดการณ์ความต้องการใช้ น้ำมันเพื่อการบริโภคอยู่ที่ 1 ล้านตัน  และความต้องการไบโอดีเซลอยู่ที่ 890,000 ตัน

ทั้งนี้  จากการประชุมครั้งนี้  ตัวแทนจากสภาเกษตรกรที่เป็นผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน  เห็นร่วมว่าต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการ ดูแล  ส่งเสริม  ให้ราคาปาล์มน้ำมัน  เป็นไปตามกลไกตลาด  และขอให้ชะลอมาตรการในการเข้ารับซื้อปาล์มน้ำมัน  ออกไปก่อน  เนื่องจากไม่ต้องการให้มีมาตรการแทรกแซงราคา  โดยเกษตรกรต้องการให้เข้ามาช่วยในการพัฒนาคุณภาพผลผลิตปาล์มน้ำมันให้มีเปอร์เซนต์น้ำมัน ที่สูงขึ้นเป็น 18 %  เพื่อให้ราคาปาล์มน้ำมันของไทยมีคุณภาพ แข่งขันได้ในตลาดโลก