บางจากผนึก10ผู้ค้าแอลพีจี ทำปั๊มน้ำมันควบก๊าซฯ-อัดงบ2พันล้านป้องมาร์เก็ตแชร์

17 มิ.ย. 2560 | 05:00 น.
บางจากเตรียมจับมือพาร์ตเนอร์ปั๊มแอลพีจีนับ 10 ราย ปรับขายก๊าซควบนํ้ามัน ชัดเจนภายในปีนี้ 20-30 แห่ง พร้อมคุยพาร์ตเนอร์ปั๊มเอ็นจีวีอีก 1 ราย อีก 3-5 แห่ง เผยใช้เงินลงทุนปีนี้ 2 พันล้านบาท ลุยขยายปั๊มและธุรกิจเสริมรองรับความต้องการของลูกค้ารักษาส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 2

จากราคาขายปลีกน้ำมันที่ปรับลดลง ส่งผลให้ความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ในภาคขนส่งลดลงอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการสถานีบริการปั๊มแอลพีจีและเอ็นจีวี ต่างเร่งปรับตัวเพื่อเพิ่มรายได้จากการขายที่ลดลง ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันก็มีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันเช่นกัน โดยล่าสุดผู้ประกอบการปั๊มแอลพีจีและเอ็นจีวี 5-10 ราย มีแผนร่วมมือกับค่ายน้ำมันบางจาก เพื่อปรับปรุงปั๊มให้สามารถจำหน่ายได้ทั้งน้ำมันและแอลพีจี ซึ่งทางบางจากคาดว่าจะเห็นความร่วมมือ 20-30 แห่งในสิ้นปีนี้

[caption id="attachment_134102" align="aligncenter" width="503"] ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)[/caption]

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บางจากอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี)ภาคขนส่ง ที่ต้องการจำหน่ายน้ำมันแบรนด์บางจากควบคู่กับแอลพีจี ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเข้ามาเจรจาทางธุรกิจกับบางจากนับ 10 ราย ล่าสุดบางจากร่วมกับทางบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) ลงทุนสถานีบริการน้ำมันควบคู่กับแอลพีจี อยู่ที่ 10-15 แห่ง

นอกจากนี้บางจากยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรผู้ประกอบการสถานีบริการแอลพีจีรายอื่น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นภายในสิ้นปีนี้

"การขยายปั๊มบางจากในปีนี้ ตั้งเป้า 100 แห่ง โดยในจำนวนนี้มีที่บางจากจะร่วมกับผู้ประกอบการปั๊มแอลพีจี เปิดขายน้ำมันแบรนด์บางจากในพื้นที่ปั๊มแอลพีจี 20-30 แห่ง ใช้เงินลงทุนในส่วนของบางจากประมาณ 5-10 ล้านบาทต่อแห่ง ส่วนที่เหลืออีก 70 แห่งก็จะเป็นการเปิดปั๊มบางจากตามปกติ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการปั๊มเอ็นจีวีอีก 1 ราย ประมาณ 3-5 แห่ง เนื่องจากยอดขายแอลพีจีและเอ็นจีวีในภาคขนส่งลดลง จึงมองมายังธุรกิจน้ำมันเพื่อเพิ่มรายได้"

สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในปีนี้ คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 45-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ยังทรงตัวจากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 50-51 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามกรณีประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ แม้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจน้ำมันของบางจากโดยตรง แต่มีความเป็นห่วงเรื่องของปริมาณกำลังการผลิตเชลล์ออยล์ และเชลล์แก๊ส ในสหรัฐซึ่งโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้กลุ่มประเทสนอกโอเปก อาทิ รัสเซีย จะรักษาระดับการผลิตน้ำมันได้หรือไม่ เพราะอาจทำให้ปริมาณน้ำมันดิบล้นอีก

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากฯ เปิดเผยว่า ยอดขายน้ำมันผ่านปั๊มบางจากในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เติบโต 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 15.1% อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บางจากตั้งเป้าใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท เพื่อทำการตลาดและขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบางจากมีปั๊มน้ำมันอยู่ที่ 1,050 แห่ง ตั้งเป้าเพิ่มอีก 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ บางจากยังมั่นใจว่าจะยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ที่อันดับ 2 รองจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) อยู่ที่ 33.4 % ซึ่งมีปัจจัยจากการขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การปรับรูปลักษณ์ให้ทันสมัย การเพิ่มธุรกิจเสริมรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งในปีนี้บางจากจะเปิดร้านซูเปอร์มาร์เก็ตสพาร์ (SPAR) จากปัจจุบัน 12 แห่ง เป็น 60 แห่ง ,ร้านกาแฟอินทนิล จาก 400 แห่ง เป็น 500 แห่ง และเพิ่มจำนวนบัตรสมาชิกบางจากอีก 3-4 แสนราย จากปัจจุบันว่า 2 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้

[caption id="attachment_161682" align="aligncenter" width="503"] บางจากผนึก10ผู้ค้าแอลพีจี ทำปั๊มน้ำมันควบก๊าซฯ-อัดงบ2พันล้านป้องมาร์เก็ตแชร์ บางจากผนึก10ผู้ค้าแอลพีจี ทำปั๊มน้ำมันควบก๊าซฯ-อัดงบ2พันล้านป้องมาร์เก็ตแชร์[/caption]

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,270 วันที่ 15 - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560