สบส.แนะคนไทยหมั่นล้างมือลดปัญหาโรคอุจจาระร่วง

29 เม.ย. 2560 | 07:44 น.
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ห่วงประชาชนป่วยโรคอุจจาระร่วงช่วงหน้าร้อน-ภัยแล้ง ในปี 2560 นี้ พบ 77 จังหวัดป่วยแล้ว 317,972 ราย แนะวิธีป้องกัน หมั่นล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งภายหลังใช้ห้องน้ำ/ห้องส้วม  ก่อนรับประทานอาหาร/ดื่มน้ำ และก่อนให้นมเด็ก ผลการวิจัยจากประเทศอังกฤษพบการล้างมือและฟอกสบู่ด้วย เป็นวิธีขจัดเชื้อโรคออกจากมือได้ดีที่สุดให้ผลสูงถึงร้อยละ 92 หากล้างด้วยน้ำอย่างเดียวลดเชื้อโรคได้ร้อยละ 70

นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งหลายพื้นที่จะประสบภัยแล้ งด้วย ปัญหาที่มักพบได้บ่อยในช่วงนี้ คือโรคระบบทางเดินอาหาร และพบมากที่สุดคือโรคอุจจาระร่ วง หรือที่เรียกว่าท้องเสีย ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายอุจจาระเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปหรือถ่ายเหลวเป็นน้ำ หรือถ่ายเป็นมูกเลือด พบได้ทุกวัย สาเหตุสำคัญเกิดมาจากการบริ โภคอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้ อนเชื้อโรคเข้าไป  โดยอาการอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยถึ งรุนแรงจากภาวะขาดน้ำและเกลื อแร่ อาจทำให้ช็อก หมดสติและเสียชีวิตได้   จากรายงานของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2560 นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม –วันที่ 28 เมษายน พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงใน 77 จังหวัด รวม 317,972 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มที่พบป่วยอันดับ 1 ได้แก่ ผู้สูงอายุ อายุ 55-64 ปี พบประมาณร้อยละ 13  รองลงมาคืออายุ 15-24 ปี ประมาณร้อยละ 12 และอายุ 25-34 ปี ประมาณร้อยละ 11  เชื้อที่เป็นสาเหตุการเกิ ดโรคอุจจาระร่วงมีหลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อยคือ อี.โคไล (E.Coli) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่พบในลำไส้ ในอุจจาระของคน โดยเชื้อโรคจะติดมากับมือ ซึ่งเชื้อนี้จะแพร่เชื้ อมาจากการรับประทานอาหารหรือดื่ มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อนี้เข้าไป

การป้องกันโรคอุจจาระร่วง มีวิธีการป้องกันง่ายๆ โดยขอให้ประชาชนล้างมือฟอกสบู่ ทุกครั้ง ภายหลังใช้ห้องน้ำห้องส้วม หลังเสร็จกิจกรรมที่ทำให้มื อสกปรก และให้ล้างก่อนรับประทานอาหาร ก่อนดื่มน้ำ  ก่อนเตรียมอาหาร และก่อนให้นมเด็ก  ที่สำคัญควรปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัย แม้ว่าในช่วงนี้บางพื้นที่ จะประสบภัยแล้งมีข้อจำกั ดในการใช้น้ำก็ตาม ก็ไม่ควรละเลยเรื่องนี้ โดยในอุจจาระของคน น้ำหนัก 1 กรัม จะมีเชื้อโรค 1 ล้านล้านตัว  หากมีอุจจาระติดมือมา  จะมีเชื้อโรคติดมาด้วย  และมีโอกาสก่อให้เกิดการเจ็บป่ วยได้ นอกจากนี้ควรตัดเล็บมือให้สั้ นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้ อโรคที่เล็บ

นายแพทย์ภัทรพลกล่าวต่อว่า จากผลการศึกษาของวิทยาลัยอนามัย และเวชศาสตร์เขตร้อนกรุงลอนดอน (London School of Hygiene and Tropical Medicine) ประเทศอังกฤษ เปรียบเทียบการล้างมือด้วยสบู่ กับล้างมือด้วยน้ำเปล่าอย่างเดี ยว และไม่ล้างเลย  ผลปรากฏว่าหากไม่ล้างมื อเลยจะตรวจพบเชื้อโรคบนมือได้ร้ อยละ 44  หากล้างมือด้วยน้ำเปล่าอย่างเดี ยว จะขจัดเชื้อโรคออกจากมือได้ ประมาณร้อยละ 70 แต่หากล้างมือด้วยน้ำและฟอกสบู่ ทั่วๆไปด้วย จะสามารถขจัดเชื้อโรคออกจากมื อได้สูงถึงร้อยละ 92  โดยสบู่จะช่วยกำจัดคราบไขมั นจากต่อมไขมัน เศษผิวหนัง และสิ่งสกปรกออกดีขึ้น  ดังนั้นฝากสถานบริการสาธารณะต่ างๆ  เช่น ห้างสรรพสินค้า ปั้มน้ำมัน  จัดให้มีสถานที่ล้างมือพร้อมสบู่ ฟอกมือที่บริเวณหน้าห้องน้ำ เพื่อตัดวงจรแพร่เชื้อโรคอุ จจาระร่วง และลดความเสี่ยงป่วยโรคอุ จจาระร่วงของประชาชน

สำหรับการล้างมือให้สะอาด ถูกหลักอนามัย มีขั้นตอนง่ายๆ 7 ขั้นตอนตามคำแนะนำกรมอนามัย ได้แก่ 1.ฝ่ามือถูกัน 2.ฝ่ามือถูหลังมือและซอกนิ้วมือ 3.ฝ่ามือถูกฝ่ามือและซอกนิ้วมือ 4.หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5.ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ ามือ 6.ปลายนิ้วถูฝ่ามือ 7.ถูรอบข้อมือทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง