“ประวิตร”ย้ำสร้างการรับรู้บริการขนส่งทางบก เรือ และอากาศแก่ปชช.

21 ต.ค. 2559 | 01:20 น.
รองนายกฯ พลเอกประวิตร ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้การให้บริการขนส่งทั้งทางบก เรือ และอากาศ ให้ประชาชนได้รับทราบ พร้อมอำนวยความสะดวกให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า ศตส. เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนกองอำนวยการรักษารักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอ.รส.) โดยมี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศตส. และพลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ  นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศตส  เปิดเผยว่า จากที่ ศตส. ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ และฝ่ายอำนวยการทำงานมาระยะหนึ่งนั้น ที่ประชุมได้มีการติดตามการดำเนินงานด้านต่างๆ ที่สำคัญ ทั้งงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งสถานการณ์โดยรวมปัจจุบันทุกอย่างยังดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตามหน่วยงานด้านความมั่นคงและด้านการข่าวยังปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังและป้องกันอย่างเต็มที่ต่อไป

ส่วนการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาเข้าถวายสักการะและลงนามแสดความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ศาลาสหทัยสมาคมนั้น ศตส.ได้ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างเต็มที่ โดยได้จัดจุดรับรองประชาชนบริเวณรอบนอกพระบรมมหาราชวัง 16 จุด ( 1.บริเวณสนามหลวง 2.มหาวิทยาลัยศิลปากร 3.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) 4.ท่าราชวรดิษฐ์ 5.กรมการรักษาดินแดน (รด.) 6.โรงละครแห่งชาติ,กรมศิลปากร,พิพิธพัณฑ์ฯ 7. วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) 8.วัดมหาธาตุวรวิหาร 9. กระทรวงกลาโหม (บริเวณด้านนอก) 10.สำนักงานสลากินแบ่งรัฐบาล (เดิม) 11. โรงเรียนสตรีวิทยา 12.โลหะปราสาท/วัดราชนัดดาฯ 13. สวนสราญรมย์ (ด้านหน้าทำเนียบองคมนตรี+ด้านหน้า กต.เดิม) 14. สนามม้านางเลิ้ง 15. บริเวณสถานที่ตั้งศาลฎีกา (เดิม) และ16.ด้านหน้าโรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์) พร้อมจัดบริการอาหารและน้ำดื่มฟรี การดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนการติดตั้งจอ LCD รอบบริเวณสนามหลวง จำนวน 9 จอ เพื่อถ่ายทอดงานพระราชพิธีฯ ให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาลงนามแสดความอาลัยได้รับชม เป็นต้น

ขณะเดียวกัน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ในฐานะรองหัวหน้า ศตส. ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการให้บริการด้านคมนาคมขนส่งทั้งทางบก เรือ และอากาศ ให้ประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับจุดบริการทางด้านขนส่งต่าง ๆ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนที่มาถวายสักการะและลงนามแสดความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นด้วยความสะดวกเรียบร้อย

รวมทั้งขณะนี้ได้มีการอำนวยความสะดวกในกรณีที่ประชาชนเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือรถยนต์ส่วนบุคคล โดยได้จัดพื้นที่จอดรถ 4 มุมเมือง ประกอบด้วย 1) ภาคใต้จอดรถที่พุทธมณฑลสาย 4 วัดดอนหวาย วัดไร่ขิง วัดท่าพูด วัดหทัยนเรศวร์  วัดโกมุทพทธรังสี วัดศรีสำญราษฎร์บำรุง วัดนครชื่นชุ่ม วัดปากน้ำภาษีเจริญ 2) ภาคตะวันตกจอดรถที่ เช็นทรัลเวสต์เกต (บางใหญ่) 3) ภาคเหนือจอดรถที่เมืองทองธานี วัดพระศรีมหาธาตุ วัดดอนเมือง วัดเทวสุนทร วัดพุทธสยาม (วัดสีกัน) วัดเสมียนนารี 4) ภาคตะวันออก บริเวณแยกบางนาจอดรถที่สถานที่ก่อสร้างบางกอกมอลล์ วัดลาดพร้าว วัดศรีเอี่ยม วัดวชิรธรรมสาธิต วัดธาตุทอง  พร้อมทั้งจะมีการเพิ่มการบริการขนส่งทั้งทางบกและเรือ และเน้นย้ำให้ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนด้วย อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กทม. และกรมการแพทย์ทหารบก ได้จัดตั้งหน่วยแพทย์ จำนวน 11 จุด และโรงพยาบาลสนาม 2 จุด ไว้สำหรับให้บริการประชาชน ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเพียงพอ

นอกจากนี้ มีบุคคลสำคัญจากต่างประเทศได้แจงกำหนดการเข้าถวายสักการพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อาทิ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ (เข้าถวายสักการะ 21 ตุลาคม 2559)  สปป. ลาว ฯลฯ ซึ่งรองนายกัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติดูแลบุคคลสำคัญจากต่างประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างสมเกียรติยศด้วย

พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำเกี่ยวกับการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งเรื่องการติดตามสถานการณ์ การดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนว่า  ศตส.จะเป็นหน่วยในการประสานงานกับกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยของ คสช. และกองอำนวยการร่วมฯ ของ กทม. ซึ่งเป็นหน่วยในการประสานการปฏิบัติในพื้นที่ ขณะเดียวกันขณะนี้ทุกกระทรวงได้มีการจัดจุดบริการและรับรองประชาชนบริเวณรอบนอกพระบรมหาราชวัง 16 จุด ซึ่งประชาชนสามารถรับบริการต่างๆ จากหน่วยดังกล่าวได้ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ศตส. พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการหาแนวทางแก้ไขโดยเร็วต่อไป