“หนี้ของคนไทย”อันเกิดจากการเล่นการพนัน

15 เม.ย. 2566 | 05:42 น.

“หนี้ของคนไทย”อันเกิดจากการเล่นการพนัน : คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย... ว.เชิงดอย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,879 

คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,879 ระหว่างวันที่ 16-19 เม.ย.2566 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย

...SvS... ขอพาไปดู ปัญหา “หนี้” ของคนไทย อันเกิดจากการเล่นการพนัน รศ.ดร.วราฤทธิ์ พานิชกิจโกศลกุล ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล และอาจารย์ประจำสาขาวิชาคณิตศาสตร์และสถิติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาเปิดเผยว่า ภาวะหนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีความอ่อนไหวต่อระบบเศรษฐกิจไทย และส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่สะท้อนปัญหาปากท้อง

โดยเฉพาะ “หนี้นอกระบบ” ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มนักเล่นการพนัน อาทิ ลอตเตอรี หวยใต้ดิน พนันฟุตบอล หรือ พนันออนไลน์ ที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมให้สามารถเข้าถึงการพนันรูปแบบต่างๆ ได้มากขึ้น โดยมีความเชื่อและพฤติกรรมร่วมของผู้ที่เล่นการพนันว่า “ต้องเล่นอีกเพื่อถอนทุนคืน” และ “ยิ่งเล่นมาก กระจายเล่นหลายๆ กอง ยิ่งมีโอกาสได้สูง” ซึ่งที่ผ่านมา คณะวิทยศาสตร์ฯ มธ. มีงานวิจัยเรื่อง “ผลตอบแทนที่คาดจะได้รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากเลขท้าย” ที่สะท้อนผลลัพธ์โอกาส หรือความเป็นไปได้ของการเล่นการพนันรูปแบบต่างๆ คือ “โอกาสเสียมีมากกว่าได้”

...SvS... ส่วนหนึ่งของงานวิจัยดังกล่าว ชี้ว่าโอกาสโชคดีที่จะถูกรางวัลแจ็กพอต หรือเป็น “วินเนอร์” ที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ยกตัวอย่างการออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งมีโอกาสเพียง 1 ใน 100 ที่ต้องซื้อเลขเดียวกันต่อเนื่องอย่างน้อย 100 งวด เพื่อให้มีโอกาสถูกรางวัลเฉลี่ย 1 ครั้ง หรือ ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี 2 เดือน จึงจะถูก มีโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 1 ครั้ง และโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งมีโอกาสเพียง  1 ในล้าน

งานวิจัยดังกล่าวยังได้แสดงผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ เปรียบเทียบระหว่าง “หวยบนดิน” และ “ลอตเตอรี” ว่ามีโอกาสขาดทุนมากน้อยเพียงใด ซึ่งพบว่าโดยเฉลี่ยจะมีโอกาสขาดทุนในทุกเกม อยู่ที่ประมาณ 35-70% ของเกมที่เล่น กรณีที่ซื้อลอตเตอรี มีเปอร์เซ็นต์ขาดทุนประมาณ 40% ของทุกเกม หากเป็นเลขท้าย 2 ตัว มีเปอร์เซ็นต์ขาดทุนประมาณ 35%

 

และประเภทที่มีเปอร์เซ็นต์ขาดทุนมากที่สุด คือ การเล่น 3 ตัวโต๊ด ที่มีเปอร์เซ็นต์ขาดทุนสูงถึง 70% ขณะที่ผู้เล่นที่ใช้เทคนิคการซื้อกวาดซื้อกระจายเพื่อเพิ่มโอกาสซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสถูกรางวัลมากขึ้นนั้น เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องเพียงบางส่วน เพราะเมื่อพิจารณาจากจำนวนการเล่น กับเงินที่ต้องจ่ายก็มากขึ้นตามไปด้วย เมื่อเทียบกับเงินรางวัลที่มีโอกาสได้ จึงไม่ใช้วิธีการที่คุ้มค่าตามความเชื่อของผู้เล่น
 

...SvS...  สิ่งที่น่าเป็นห่วงจากสถานการณ์ “หนี้” คนไทย ที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการพนันในปัจจุบัน คือ เทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงการซื้อสลากออนไลน์ การเล่นเกมพนันต่างๆ ทั้งจากเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงด้วยกระบวนการที่เข้าใจง่าย มีวิธีการสื่อสารที่ดึงดูด และบางแห่งมีวงเงินพร้อมใช้สำหรับกู้ยืมโดยใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว ที่เพิ่มปัจจัยการเป็นหนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในจำนวนนี้เชื่อมโยงกับปัญหา “หนี้นอกระบบ” ซึ่งยิ่งทำให้วงจรการเป็นหนี้ขยายวงกว้างและยาวนานออกไปอีก อีกทั้งสถานการณ์ที่เปราะบางกับกลุ่ม “เยาวชน” ที่อาจเข้ามาสู่วงจรการพนันและการเป็นหนี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

                   “หนี้ของคนไทย”อันเกิดจากการเล่นการพนัน

...SvS...ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ศึกษาสถานการณ์และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ปี 2564 พบว่า คนไทยเล่นการพนันร้อยละ 59.6 หรือ ประมาณ 32.33 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.9 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 จำนวนนี้เป็นผู้ที่เล่นพนันครั้งแรกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือเรียกว่า “นักพนันหน้าใหม่” เกือบ 8 แสนคน ที่น่ากังวลคือ ร้อยละ 29.5 ของประชากรเด็ก อายุ 15-18 ปี ที่เล่นการพนัน มีวงเงินหมุนเวียนรวม 29,155 ล้านบาท และร้อยละ 54.6 ของเยาวชน อายุ 19-25 ปี ที่เล่นการพนัน มีวงเงินหมุนเวียนรวม 93,321 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมีแนวโน้มผู้เล่นที่เพิ่มขึ้น และวงเงินพนันหมุนเวียนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยการพนันที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” และ “หวยใต้ดิน”

...SvS...ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ (PIER) เมื่อเดือน มี.ค.2565 พบว่า คนไทยเป็นหนี้สูงถึง 37% หรือราว 1 ใน 3 ของประชากรไทย หรือราว 25 ล้านคน ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประมาณ 57% ของผู้ที่มีหนี้ จะมีหนี้สินตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป และกลุ่มผู้ที่มีหนี้ตั้งแต่ 1,000,000 บาท ขึ้นไป มีถึง 14% โดยสามารถแยกหนี้ตามประเภทต่าง ๆ สูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1.สินเชื่อส่วนบุคคล 39% 2.บัตรเครดิต 29% 3.การเกษตร 12% 

...SvS... สำหรับสถานการณ์ “หนี้ครัวเรือน” ของไทย พบว่า มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2564 ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้หนี้ครัวเรือนไทย พุ่งสูงถึง 90.1% ก่อนจะปรับลดลงมาในไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ระดับ 86.8% โดยมีสาเหตุสำคัญ 8 ด้าน ได้แก่ 1.เป็นหนี้เร็วตั้งแต่เริ่มวัยทำงาน 2.เป็นหนี้เกินตัว ทำให้รายได้เกินกว่าครึ่งต้องเอาไปจ่ายคืนหนี้ 3.เป็นหนี้โดยไม่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนหรือถูกต้อง 4.เป็นหนี้เพราะมีเหตุจำเป็น 5.เป็นหนี้นาน 6.เป็นหนี้เสีย 7.เป็นหนี้ไม่จบไม่สิ้น 8.เป็นหนี้นอกระบบ โดยพบว่า 42% ของกลุ่มตัวอย่างกว่า 4,600 ครัวเรือน จากทุกภูมิภาคของไทย มีหนี้นอกระบบเฉลี่ยรายหัวอยู่ที่ คนละ 54,300 บาท ซึ่ง “การพนัน” เป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของการเป็นหนี้นอกระบบ

...SvS... คณะวิทยาศาสตร์ฯ มธ. มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ควรลดความถี่ในการโปรโมทการเข้าถึงการพนันทุกรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นการออกรางวัลที่ถูกกฎหมายก็ตาม เนื่องจากหากมองพฤติกรรมของผู้เล่นในปัจจุบัน ที่มีกระแสความนิยมในสังคมไทยอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องมีการโปรโมทเพื่อกระตุ้นความสนใจและสร้างภาพจำว่า การพนัน หรือ การวัดดวงเป็นเรื่องปกติของสังคม โดยเฉพาะการนำเสนอข่าวบุคคลถูกรางวัลใหญ่ของแต่ละงวด …ข้อเสนอเหล่านี้ ไม่รู้ว่าจะมีหน่วยงานรัฐใด สนใจที่จะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา หรือหาทางป้องกัน ไม่ให้คนไทยมีหนี้เกิดขึ้นบ้างหรือไม่...