ร้อนปรอทแตก-ท่องเที่ยวฟื้น ตลาดแอร์โต 2 หมื่นล้าน

12 พ.ค. 2566 | 01:24 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ค. 2566 | 01:39 น.

หลายพื้นที่ของประเทศไทยเวลานี้อุณหภูมิพุ่งทะลุเกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งจากคลื่นความร้อนมากกว่าปกติ ส่งผลเครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์จำเป็นของบ้านที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานต่าง ๆ ในการทำความเย็นเพื่อลดความร้อนระอุของอากาศ

ร้อนปรอทแตก-ท่องเที่ยวฟื้น ตลาดแอร์โต 2 หมื่นล้าน

อีกทั้งการกลับมาเปิดประเทศรับการท่องเที่ยวของไทยที่อั้นมาตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิดที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลเครื่องปรับอากาศสำหรับโรงแรม รีสอร์ท และที่พักต่าง ๆ ขายดีขึ้นตามไปด้วย

จากทิศทางความเคลื่อนไหวข้างต้นและจากนี้จะเป็นอย่างไร “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นางสุภาณี จันทศาศวัต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ดังรายละเอียด

  • ตลาดในประเทศพุ่ง 2 หมื่นล้าน

นางสุภาณี ประเมินว่า ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศภายในประเทศปี 2566 ตลาดรวมคาดจะมีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5-10% สอดคล้องกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากขึ้นในปีนี้

จากสถิติปริมาณการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศภายในประเทศ ปี 2565 ประมาณ 1,096,600 เครื่อง สำหรับปี 2566 คาดปริมาณการจำหน่ายในประเทศจะเติบโต 26.54% จากช่วงเดียวกันของปี 2565 (ใช้ปริมาณการจำหน่ายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เปรียบเทียบกับกุมภาพันธ์ 2566) โดยเครื่องปรับอากาศที่มีปริมาณการใช้มากที่สุดจะอยู่ที่ขนาด 11,000- 13,000 Btu/hr. มีสัดส่วนประมาณ 28% และ 15,000- 20,000 Btu/hr. ประมาณ 18%

เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศในประเทศย้อนหลัง 3 ปี พบว่า ปี 2563 มีมูลค่า 18,416 ล้านบาท ขยายตัว 1.83% ปี2564 มีมูลค่า 16,461 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวลดลง -10.61% และปี 2565 มีมูลค่า 19,600 ล้านบาท ขยายตัว 19.06% เมื่อเทียบกับปี 2564

ร้อนปรอทแตก-ท่องเที่ยวฟื้น ตลาดแอร์โต 2 หมื่นล้าน

  • ส่งออก 3 เดือนแรกโต 17%

ด้านการส่งออกเครื่องปรับอากาศ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 243,604 ล้านบาท และช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่าส่งออก 76,709 ล้านบาท เติบโต 16.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อน สำหรับคาดการณ์ปี 2566 ปริมาณการส่งออกเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ 13,061,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวมประมาณ 265,525 ล้านบาท

นอกจากนี้เมื่อประเมินกำลังซื้อเครื่องปรับอากาศ และชิ้นส่วนในครึ่งปีหลัง ยังพบว่าหลังการเลือกตั้งและได้รัฐบาลใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีเงินเข้าสู่ระบบ จะทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น

ส่วนความคืบหน้าของ กลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาปักฐานผลิตเครื่องปรับอากาศในไทยจากสัญชาติต่างๆ ก่อนหน้านี้เช่น ประเทศจีน เริ่มมีการผลิตแล้วในปีนี้ (2566) คาดการณ์ปริมาณการผลิตในอีก 5 ปีข้างหน้าค่อนข้างคาดเดายาก เนื่องจากจะมีการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า ทำให้กลุ่มทุนต่างชาติในไทยอาจจำเป็นต้องไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตในประเทศอื่น เป็นเหตุให้ต้องลดกำลังการผลิตในไทยลง

 “การส่งออกเครื่องปรับอากาศปีนี้ตลาดใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย ปากีสถาน เนื่องจากประเทศดังกล่าวอยู่ในเขตร้อน และมีประชากรจำนวนมาก รวมถึงการขยายตัวของชนชั้นกลาง ทำให้มีความต้องการเครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

  • ท่องเที่ยวฟื้น หนุนแอร์โต

อย่างไรก็ตามขณะนี้มองว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดจะเติบโตดีกว่าปี 2565 โดยอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ ยังได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้มีความต้องการซื้อเครื่องปรับอากาศใหม่ รวมถึงการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเดิมในโรงแรม รีสอร์ท รวมถึงที่พักอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ จะทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น

  • ไทยฮับเครื่องปรับอากาศโลก

นางสุภาณี กล่าวทิ้งท้ายว่า ไทยยังเป็นศูนย์รวมการผลิตเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก เห็นได้จากผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศรายใหญ่ของโลกได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากกว่าหลายประเทศ ทำให้เกิดอุตสาหกรรมชิ้นส่วนสนับสนุนมากขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อควบคุมคุณภาพและการผลิต รวมถึงมีระบบโลจิสติกส์ ที่ตอบสนองต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเหนือกว่าคู่แข่งในอาเซียน

นอกจากนี้ยังตอกยํ้าให้เห็นโอกาสที่สนับสนุนให้อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น ความร้อนในแถบประเทศยุโรปที่สูงขึ้น จึงเป็นโอกาสในการกระจายสินค้า รวมถึงการลงทุนภาคอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ผลิตจากญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา และจีน ทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศที่หลากหลายเทคโนโลยี ส่งผลให้ระบบห่วงโซ่อุปทานขยายวงกว้าง เป็นโอกาสในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

โดยเฉพาะชิ้นส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศที่มีห่วงโซ่การผลิตในประเทศมาก เช่น คอมเพรสเซอร์ มอเตอร์และใบพัด คอยล์ ตัวเครื่องปรับอากาศ และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เหล่านี้มีทั้งชิ้นส่วนประกอบทั่วไปและชิ้นส่วนประกอบเฉพาะเจาะจง จำเป็นต้องออกแบบโดยเฉพาะกับเครื่องปรับอากาศแต่ละราย ดังนั้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานการผลิตจำเป็นต้องพัฒนาทั้งในส่วนของความร่วมมือและการยกระดับผู้ประกอบการให้เข้มแข็งด้วย

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3887 วันที่ 14 – 17 พฤษภาคม  พ.ศ. 2566