ย้อนรำลึก 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน

06 ก.ค. 2568 | 07:45 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2568 | 08:37 น.

ย้อนรำลึก 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน : คอลัมน์ลวดลายมังกร โดย... พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4111

KEY

POINTS

  • การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน อย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ณ กรุงปักกิ่ง โดยมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และ โจว เอินไหล เป็นผู้ลงนาม
  • ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศตั้งอยู่บนหลักการเคารพอธิปไตยซึ่งกันและกัน การไม่แทรกแซงกิจการภายใน และการอยู่ร่วมกันโดยสันติ แม้จะมีระบอบการเมืองและสังคมที่แตกต่างกัน
  • รัฐบาลไทยรับรองรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมายเพียงรัฐบาลเดียวของจีน และรับทราบว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีน
  • มีการตกลงเรื่องสัญชาติ โดยจีนไม่ยอมรับการถือสองสัญชาติ และชาวจีนที่ได้สัญชาติไทย จะสูญเสียสัญชาติจีนโดยอัตโนมัติ

 

พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอการย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งลงนามโดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีไทย กับ นายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีจีน เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2518 ณ กรุงปักกิ่ง ความว่า

1.รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความปรารถนาที่จะฟื้นฟูและกระชับความสัมพันธ์ที่ได้มีมาช้านานอย่างใกล้ชิด และฉันมิตรระหว่างประชาชนของประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 

และเพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ จึงตกลงใจที่จะรับรองซึ่งกันและกันและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2518 เป็นต้นไป

2.รัฐบาลทั้งสองแถลงยืนยันว่า ประชาชนของแต่ละประเทศเท่านั้นที่มีสิทธิเลือกระบอบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของตน โดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก และทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นเช่นเดียวกันด้วยว่า ถึงแม้ราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีระบอบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่น่าจะมีอุปสรรคต่อการพัฒนาความสัมพันธ์อันสันติและฉันมิตรระหว่างประเทศและประชาชนทั้งสอง ตามหลักแห่งความเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนซึ่งกันและกัน การไม่รุกรานต่อกัน การไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน ความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน และการอยู่ร่วมกันโดยสันติ

3.รัฐบาลทั้งสองตกลงที่จะระงับกรณีพิพาททั้งมวลโดยสันติวิธีตามหลักการต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น โดยจะไม่หันไปใช้หรือคุกคามว่าจะใช้กำลัง

4.รัฐบาลทั้งสองตกลงกันว่า การรุกราน หรือ การบ่อนทำลายทั้งปวงจากต่างประเทศ และความพยายามทุกประการของประเทศใดที่จะควบคุมประเทศอื่นใด หรือที่จะแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นนั้น เป็นสิ่งที่ต้องห้าม และต้องถูกประณาม

5.รัฐบาลทั้งสองยังเป็นปฏิปักษ์ต่อความพยายามของประเทศ หรือกลุ่มประเทศใดที่จะสถาปนาความเป็นใหญ่ หรือ สร้างเขตอิทธิพลเหนือส่วนหนึ่งส่วนใดของโลกอีกด้วย 

6.รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า เป็นรัฐบาลอันชอบด้วยกฎหมายของประเทศจีนเพียงรัฐบาลเดียว รับทราบท่าทีของรัฐบาลจีนว่า มีจีนเพียงประเทศเดียว 

และว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนที่จะแบ่งแยกมิได้ และตกลงใจที่จะถอนผู้แทนทางการของตนทั้งหมดออกจากไต้หวัน ภายในระยะเวลา 1 เดือน นับจากวันที่ลงนามแถลงการณ์ฉบับนี้ 

                                        ย้อนรำลึก 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน

7.รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนรับรองรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และตกลงที่จะเคารพเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย

8.รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รับรู้ความเป็นจริงที่ว่า นับเป็นเวลาหลายศตวรรษมาแล้ว ชาวจีนในประเทศไทยได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความปรองดองและไมตรีจิตกับชาวไทย ตามกฎหมายไทยและตามขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีของชาวไทย 

รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศไม่ยอมรับการถือสองสัญชาติ รัฐบาลทั้งสองถือว่า บุคคลสัญชาติหรือเชื้อชาติจีนผู้ได้มาซึ่งสัญชาติไทยย่อมสูญเสียสัญชาติจีนโดยอัตโนมัติ 

ส่วนในกรณีชาวจีนซึ่งพำนักอยู่ในประเทศไทย ที่เลือกจะรักษาไว้ซึ่งสัญชาติจีนด้วยความสมัครใจของตนเองนั้น รัฐบาลจีน โดยปฏิบัติตามนโยบายที่มีมาอย่างสม่ำเสมอ จะเรียกร้องให้บุคคลเหล่านั้นปฏิบัติตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย เคารพธรรมเนียมจารีตประเพณีของชาวไทย และอยู่ร่วมกับชาวไทยอย่างฉันมิตร สิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบุคคลดังกล่าว จะได้รับความคุ้มครองโดยรัฐบาลแห่งประเทศจีน และความรับนับถือจากรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย

9.รัฐบาลทั้งสองตกลงที่จะดำเนินนโยบายเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้า เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรมระหว่างประเทศทั้งสอง

10.รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตกลงที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูต ซึ่งต่างฝ่ายให้ความเห็นชอบต่อกันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ และจะอำนวยความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นต่อกันและกันทุกประการ ในการจัดตั้งและปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้แทนทางการทูตในนครหลวงของประเทศทั้งสอง โดยเป็นไปตามการปฏิบัติระหว่างประเทศและบนมูลฐานแห่งการถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน

ดังนั้น ในวันที่ 1 ก.ค. 2568 จึงเป็นวาระสำคัญของการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน ซึ่งไทยและจีนได้ยึดถือตามเจตจำนงในแถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าวมาโดยตลอด

(ข้อมูลจากหนังสือ “ความสัมพันธ์ไทย-จีน” ฉบับภาษาไทย ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักงานสารนิเทศ แห่งคณะรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน ปี พ.ศ. 2548 หน้า 144–145)

คอลัมน์ลวดลายมังกร โดย... พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับ 4111