พลังแห่งเรื่องเล่า : เปลี่ยนค่านิยมธุรกิจครอบครัวให้มีชีวิตชีวา

ค่านิยมเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวแข็งแกร่ง เมื่อสมาชิกทุกคนยึดถือแนวคิดร่วมกันจะเกิดความเป็นหนึ่งเดียว ส่งเสริมสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนมุ่งมั่นสู่เป้าหมายและค้นพบความหมายในทุกก้าวของการทำงาน อย่างไรก็ตามการนิยามและนำค่านิยมไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับสมาชิกและพนักงานในระยะยาวไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งแนวคิดนี้อาจดูคลุมเครือหรือรู้สึกห่างไกลจากชีวิตประจำวัน

ดังนั้นทางออกที่มีประสิทธิภาพจึงอยู่ที่การถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่า โดยหากสามารถสื่อสารค่านิยมผ่านเรื่องราวที่มีชีวิตชีวาและเชื่อมโยงกับประสบการณ์จริง จะทำให้เห็นภาพชัดเจนถึงความหมายและประโยชน์ที่แท้จริง นำไปสู่ความผูกพันอันแน่นแฟ้นและแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืน

การเล่าเรื่องคือศิลปะที่ทรงพลังในการส่งต่อค่านิยมของครอบครัวจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง โดยไม่ใช่แค่เพียงคำพูดที่ผ่านไปเท่านั้น แต่คือการถ่ายทอดเรื่องราวที่อบอุ่นและมีความหมายลึกซึ้ง เช่น เรื่องเล่าในวัยเด็กที่พ่อพาไปทำงานด้วย ไม่ได้เป็นเพียงการบอกเล่าด้วยคำพูดเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกถึงค่านิยมที่แท้จริงผ่านการกระทำ พ่อที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงคุยกับลูกน้องโดยไม่สั่งการหรือบังคับใคร แต่กลับเปิดใจรับฟังและเคารพในความรู้รวมทั้งประสบการณ์ของพวกเขา

ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายและเต็มใจแบ่งปันความคิดเห็น เรื่องเล่านี้ช่วยย้ำเตือนให้จดจำคุณค่าของความเท่าเทียมและความร่วมมือไว้ในใจ และทำให้ค่านิยมเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงแนวคิดนามธรรมอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นรากฐานที่ชัดเจนในชีวิตประจำวัน สมาชิกในครอบครัวจึงสามารถนำไปปรับใช้ร่วมกันได้อย่างเต็มที่ สร้างความผูกพันอันแน่นแฟ้นในทุกย่างก้าวสู่เป้าหมายร่วมกัน

ในปัจจุบันหลายครอบครัวอาจมีการบันทึกค่านิยมลงในเอกสารหรือโพสต์ในเว็บไซต์เพื่อการเผยแพร่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเห็นสิ่งเหล่านี้ถูกนำไปปฏิบัติในชีวิตจริงและสัมผัสได้จากประสบการณ์ตรง เมื่อค่านิยมได้รับการถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่า ก็จะกลายเป็นภาพที่ชัดเจนในใจของผู้ฟัง

ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันหรือการแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน เรื่องเล่าเหล่านี้จะช่วยให้สิ่งที่เคยเป็นเพียงตัวอักษรที่คุ้นเคยกลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่สามารถจับต้องได้ และถึงแม้ค่านิยมหลักของครอบครัวอาจถูกนิยามไว้อย่างชัดเจนแล้ว แต่การแสดงออกของคนในแต่ละรุ่นอาจแตกต่างกันไปตามวิธีการปฏิสัมพันธ์และบริบทของแต่ละยุค

เมื่อสังคมเปลี่ยนไปรูปแบบการสื่อสารและแสดงออกถึงค่านิยมก็ต้องพัฒนาไปตามการเปลี่ยนแปลงนั้นด้วย เพื่อให้คนรุ่นต่อไปสามารถเข้าใจและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในที่สุดการถ่ายทอดเรื่องเล่าที่มาจากประสบการณ์จริงจะช่วยสร้างรากฐานให้ค่านิยมกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ลดความคลุมเครือหรือความสูงส่งในทางทฤษฎีให้กลายเป็นการปฏิบัติที่สามารถจับต้องได้และส่งต่อไปยังลูกหลานอย่างยั่งยืน

Hansen, E. (2024, August 23). Storytelling vividly illustrates your family business values.FamilyBusiness.org. https://familybusiness.org/content/storytelling-vividly-illustrates-your-family-business-values